สหภาพ THAI ร้องนายกฯ เช็คบิล"จรัมพร"ไร้ประสิทธิภาพ-มีเจตนาแอบแฝง-แก้ขาดทุนไม่ได้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 10, 2016 14:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายดำรงค์ ไวยคณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้ดำเนินการตรวจสอบการดำเนินงานของนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) เนื่องจากแม้จะใช้มาตรการลดค่าใช้จ่าย ลดจำนวนบุคลากรตามแผนฟื้นฟูปฎิรูปองค์กร แต่กลับไม่เป็นไปตามแผนและการคาดการณ์ว่าบริษัทจะกลับมามีกำไร เป็นสายการบินชั้นนำ และดำรงอยู่อย่างยั่งยืน

"มาตรการต่าง ๆ ที่นำมาใช้ ไม่มีประสิทธิภาพ และไม่ปรากฎผลชัดเจนว่าประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย และการลดค่าใข้จ่ายพนักงานระดับล่างแต่ฝ่ายเดียวได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อประสิทธิภาพของงาน ขวัญกำลังใจและความภักดีต่อองค์กรมากขึ้น ๆ เป็นลำดับ"สหภาพฯ ระบุ

ทั้งนี้ สหภาพฯ ระบุในหนังสือร้องเรียนว่า นโยบายการหารายได้ตามแผนฟื้นฟูฯ นั้นปรากฎรายงานทางบัญชีในช่วงเวลาเดียวกันตั้งแต่ปี 57-59 มีอัตราที่ลดต่ำลง ทั้งที่ในปี 59 ไม่มีปัญหาทางการเมือง ประกอบกับราคาน้ำมันลดต่ำลง แม้จะมีการยกเลิกเส้นทางการบินที่ขาดทุน แต่กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงตัวบุคคลหรือวิธีการขายใหม่

อีกประการอาจเกิดจากนโยบายลงทุนที่มุ่งเน้นผู้โดยสารที่มีเงินมาก แต่เป็นกลุ่มน้อยโดยละเลยผู้โดยสารที่มีฐานะด้อยกว่าแต่เป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ ทำให้สูญเสียลูกค้ากลุ่มใหญ่

สำหรับปัญหาขาดทุนตั้งแต่ปี 57-58 หากพิจารณาตามบัญชี พบว่าสาเหตุใหญ่น่าจะมาจากการคำนวณการด้อยค่าสินทรัพย์และการด้อยค่าเครื่องบินที่สูงผิดปกติ เนื่องจากมีความเร่งรีบในการปลดระวางเครื่องบินทั้งที่ยังมีอายุการใช้งานเหลืออยู่ ไม่ใช่ขาดทุนจากการดำเนินการ แต่สำคัญคือบริษัทฯมีเงินเหลือตามมูลค่าของการด้อยค่า

โดยการด้อยค่าสินทรัพย์ เชื่อว่าใช้เป็นเหตุอ้างความต้องการขายสินทรัพย์ให้กับบุคคลใกล้ชิดเช่น อาคารสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศทั้งที่สามรถลงทุนบริการให้เกิดประโยชน์ระยะยาวได้ ส่วนการด้อค่าเครื่องบิน ข้อเท็จจริงหรือเร่งปลดระวางเครื่องบินทั้งที่ยังมีอายุใช้งานนั้น น่าเชื่อว่าใช้เป็นเหตุอ้างความต้อวการซื้อเครื่องบินใหม่

ในด้านการลงทุน บริษัทฯมุ่งเน้นลงทุนเพื่อการบริหารผู้โดยสารเท่านั้น แต่หน่วยงานที่สร้างรายได้ เช่น ฝ่ายคลังสินค้า ฝ่ายครัวการบิน ฝ่ายช่าง ฝ่ายบริการภาคพื้นดิน ไม่มีการลงทุนเพิ่มเพื่อให้สามารถหารายได้เพิ่มแต่อย่างใด

ส่วนการปรับลดกำลังคน มุ่งเน้นแต่การลดจำนวนพนักงานให้ได้ตามเป้าหมาย โดยไม่มีการพิจารณาให้รอบคอบถึงผลกระทบต่อการบริการและประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย มีผลให้บริษัทฯ รับภาระเรื่องค่าล่วงเวลามากขึ้น นอกจากนี้ การว่าจ้างที่ปรึกษาจำนวนมากในราคาสูง ปรากฎผลให้บริษัทฯมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ไม่สร้างผลกำไรที่คุ้มค่า และกลับสร้างความขัดแย้งในองค์กร

นอกจากนั้น ยังละเลยไม่สนใจดูแลพนักงานผู้น้อย เช่น พนักงานเดือดร้อนจากการถูกหักเงินเดือนเพื่อชำระหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ในฐานะผู้ค้ำประกันผู้กู้ที่ได้ลาออกจากบริษัท หนีหรือตาย ซึ่งพนักงานดิ้นรถด้วยการลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อดำรงชีพทำให้เสียโอกาสรับเงินในส่วนที่บริษัทออกให้ นอกจากนั้น เงิน Incentive ของพนักงานที่นายจรัมพรได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ต.ค.จนบัดนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการ และการขึ้นเดือน 2% ตามมติครม.ก็ยังไม่นำเข้าสู่การพิจารณษ

"สหภาพฯ เห็นว่า การบริหารงานตามนโยบายภายใต้การนำของนายจรัมพร โชติกเสถียร นั้นไม่สามารถสร้างรายได้ให้มีประสิทธิภาพตามนโยบายและน่าเชื่อว่ามีการคำนวณค่าใช้จ่ายการด้อยค่าสินทรัพย์และเครื่องบินเกินความจริง โดยมีเจตนาแอบแฝงอื่น ผลการขาดทุนจึงไม่ใช่การขาดทุนจากการดำเนินการโดยแท้จริง"สหภาพฯ ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ