DEMCO แจง Q3/59 พลิกกำไรพุ่ง 125% จากขาดทุน 161 ลบ.เหตุรายได้เพิ่ม-ค่าใช้จ่ายลด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 10, 2016 15:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไพฑูรย์ กำชัย กรรมการและเลขานุการบริษัท บมจ.เด็มโก้ (DEMCO) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย. 59 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 40.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 125.40 เมื่อเทียบกับขาดทุนสุทธิจำนวน 161.28 ล้านบาท ในไตรมาส 3/58 ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากรายได้บริการที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงฐานซึ่งเป็นรายการพิเศษที่ลดลง โดยในไตรมาส 3/59 บริษัทได้บันทึกส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 24.27 ล้านบาท สำหรับอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากขาดทุน 13.03% เป็นกำไร 1.88%

สำหรับรายได้รวมไตรมาส 3/59 เท่ากับ 2,173.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.63% เมื่อเทียบกับรายได้รวมจำนวน 1,237.43 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้งานบริการ 1,964.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 892.85 ล้านบาท จากไตรมาส 3/58 อยู่ที่ 1,071.63 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 83.32% เนื่องจากการรับรู้รายได้ในงานก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนของเอกชน

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม 3 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 246 เมกกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 1 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้ง 90 เมกกะวัตต์ รวมถึงงานก่อสร้างสายส่งแรงสูง 230 เควี. 500 เควี และสถานีไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและเอกชน

ส่วนรายได้จากงานขายในไตรมาส 3/59 อยู่ที่ 192.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 38.07 ล้านบาทจากไตรมาส 3/58 ที่อยู่ในระดับ 154.76 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 24.60% โดยรายได้จำนวน 145.97 ล้านบาทมาจากการขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าจากต่างประเทศให้โครงการขนาดใหญ่

ขณะที่กำไรขั้นต้น ในส่วนงานบริการเพิ่มขึ้นจาก 57.37 ล้านบาท ในไตรมาส 3/58 เป็น 115.80 ล้านบาทในไตรมาส 3/59 หรือเพิ่มขึ้น 101.84% สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นงานบริการเพิ่มขึ้นจาก 5.35% เป็น 5.89%

ส่วนกำไรขั้นต้นงานขายลดลงจาก 53.23 ล้านบาทในไตรมาส 3/58 เป็น 15.15 ล้านบาท ในไตรมาส 3/59 หรือลดลง 71.55% สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 34.39% เป็น 7.85% จากการลดลงของอัตรากำไรขั้นต้นของการขายเสาโครงเหล็กเนื่องจากปริมาณการผลิตที่ลดลงทำให้ต้นทุนคงที่เฉลี่ยสูงขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำจากการขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าในโครงการขนาดใหญ่ซึ่งเป็นธุรกิจซื้อมาขายไป

ค่าใช้จ่ายขายและบริหารในไตรมาสนี้มีจำนวน 84.45 ล้านบาท ลดลงจำนวน 289.43 ล้านบาท เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายขายและบริหารจำนวน 373.88 ล้านบาทในไตรมาส 3/58 หรือคิดเป็นลดลง 77.41% ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากการลดลงขอค่าชดเชยค่าเสียโอกาสในการขายไฟฟ้าและประมาณการค่าก่อสร้างในการปรับปรุงแก้ไขฐานของเสากังหันลมโรงไฟฟ้าพลังงานลมห้วยบง 2 และห้วยบง 3 โดย ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร (ส่วนปกติ) เป็นจำนวน 75.14 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายขายและบริหารในไตรมาส 3/58 จำนวน 75.05 ล้านบาท

ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร (ส่วนรายการพิเศษ) เป็นจำนวน 9.31 ล้านบาท ลดลง 96.88% เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายขายและบริหารส่วนที่เป็นรายการพิเศษในไตรมาส 3/58 จำนวน 298.83 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ