IRCP ปรับธุรกิจครั้งใหญ่รับไทยแลนด์ 4.0 พร้อมรุก Clound service-Media commerce

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 11, 2016 12:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกังวาล กุศลธรรมรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น (IRCP) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อที่จะก้าวสู่ IRCP 4.0 โดยจะเน้นการดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีใหม่และพลังงานที่มีความยั่งยืน และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและการก้าวเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0

สำหรับธุรกิจใหม่ที่บริษัทเตรียมรุก อาทิ คลาวด์เซอร์วิส ที่จะช่วยทำการดำเนินกิจกรรมต่างๆขององค์กร เป็นไปอย่างสะดวกมากขึ้น รวมไปถึงการรุกธุรกิจ Media commerce ซึ่งเป็นการดำเนินธุรกิจสื่อรูปแบบใหม่ที่จะทำให้การเข้าถึงหรือการซื้อขาย จำหน่ายสินค้า มีความง่ายสะดวกสบายมากขึ้น โดยจะมีการปรับโฉมครั้งใหญ่เร็วๆ นี้

“การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับบริษัทที่จะก้าวเข้าไปมีส่วนร่วม บริษัทจึงมีการปรับกระบวนการดำเนินงาน ให้เท่าทันจับกระแสการเปลี่ยนแปลง เพื่อที่จะนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาเสนอกับลูกค้า ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจสะดวกสบายและสามารถบริหารต้นทุน ทำให้การตัดสินใจแม่นยำมากขึ้น โดยจะเห็นภาพดังกล่าวเร็วๆ นี้ ขณะที่งานโครงการภาครัฐจะมีการกลั่นกรองเฉพาะงานที่ให้ผลตอบแทนได้คุ้มค่า และจะเน้นการบริหารจัดการองค์กรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น" นายกังวาล กล่าว

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 ที่ออกมาขาดทุน 6.85 ล้านบาท เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้โครงการปล่อยเช่าเครื่องคัดแยกสิ่งของกับคู่สัญญา คือ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มูลค่า 500 ล้านบาท เกิดความล่าช้า เนื่องจากทางไปรษณีย์ไทยได้ขอให้บริษัทชะลอโครงการเพื่อแก้ไขกระบวนการภายในให้แล้วเสร็จก่อน แต่ปัจจุบันโครงการดังกล่าวได้เดินหน้าแล้ว ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้

ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/59 บริษัทมีรายได้รวม 262.37 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการพัฒนาระบบจำนวน 118.57 ล้านบาท ลดลงจำนวน 69.46 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการขายมีจำนวน 141.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 21.08 ล้านบาท จากบริษัทฯ ได้ทำกิจกรรมการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

ส่วนกำไรขั้นต้นรวม บริษัทมีกำไรขั้นต้นจำนวน 45.01 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นรวม 17.33% ของยอดรายได้จากการขายรวม ลดลงจากปีก่อน ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นรวม 24.78% ของยอดรายได้จากการขายรวม สาเหตุมาจากโครงการที่บริษัทฯ ส่งมอบล่าช้ากว่ากำหนด ทำให้มีต้นทุนในการดำเนินโครงการสูงขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ