ARROW คาดปี 60 รายได้ 1.6 พันลบ.จากปีนี้ 1.4 พันลบ.ตามเป้า, สรุปแผนลงทุนขยายไลน์ผลิตใหม่ในพ.ย.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 16, 2016 12:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW) คาดรายได้ปี 60 จะอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 18-22% โดยรายได้จะมาจากท่อร้อยสายไฟราว 1,300 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจรับเหมาราว 300 ล้านบาท ซึ่งยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากโครงการต่าง ๆ ที่จะออกมา

ปัจจุบริษัทฯอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ไม่ว่าจะเป็นสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 โครงการคอนโดมิเนียมหลาย ๆ โครงการ และรถไฟฟ้าหลายสาย มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้งานกว่า 60-70% ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลการประมูลในช่วงปลายปีนี้ โดยคาดว่าช่วงต้นปี 60 จะสามารถตุนงานในมือ (Backlog) ถึงระดับ 200-300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีความสนใจที่จะเข้าประมูลงานจากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กลุ่มโรงพยาบาลที่เน้นผู้สูงอายุ อิเกียบางใหญ่ และโรงแรมชาเตียม

สำหรับรายได้ปีนี้บริษัทฯมั่นใจทำได้ 1,400 ล้านบาทตามเป้าหมาย หลัง 9 เดือนแรกปีนี้มีรายได้แล้ว 1,008.10 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) 270 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ปีนี้ทั้งหมด ในขณะเดียวกันคาดว่าอัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯจะอยู่ที่ใกล้เคียง 20% ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วง 9 เดือนแรกที่ระดับ 19.55%

"ปีนี้เรายังคงมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 1,400 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ทั้งกำไรสุทธิและรายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ ขณะที่ปีหน้าเราก็คาดว่าจะมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะงานต่าง ๆ ที่จะออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ คอนโดมิเนียมที่จะเกิดขึ้นตามรถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตามเราต้องระมัดระวังเรื่องของราคาวัตถุดิบ และค่าเงิน ที่มีความผันผวน อย่างไรก็ตามบริษัทฯก็ได้ตุนปริมาณวัตถุดิบไว้กว่า 80% ของงานในมือแล้ว จึงไม่ได้กังวลนัก แต่หากราคาวัตถุดิบมีการปรับขึ้นบริษัทฯก็สามารถปรับราคาสินค้าขึ้นตามได้จึงไม่มีความกังวลมากนัก"นายธานินทร์ กล่าว

นอกจากนี้บริษัทฯยังเตรียมพิจารณาขยายไลน์การผลิตสินค้าประเภทท่อสำหรับงานก่อสร้าง ซึ่งบริษัทฯเตรียมสรุปแผนการลงทุนภายในเดือน พ.ย. นี้ เบื้องต้นตั้งงบลงทุนราว 20-30 ล้านบาท โดยบริษัทฯเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงอาคารต่าง ๆ จะเติบโตขึ้นในปี 60 จึงต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อรองรับการเติบโต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ