ตลท.เผยบจ.มีกำไรสุทธิใน Q3/59 รวม 2.09 แสนลบ. โต 251% จากงวดปีก่อน หลังต้นทุนผลิตลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 21, 2016 17:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน SET จำนวน 527 บริษัท หรือคิดเป็น 93.27% จากทั้งหมด 565 บริษัท (รวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (PF & REIT) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และ บริษัทที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด หรือ NPG) นำส่งผลการดำเนินงาน งวดไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 บจ. มีกำไรสุทธิจำนวน 425 บริษัท คิดเป็น 80.65% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด

โดย บจ. มีต้นทุนการผลิตโดยรวมลดลงทำให้มีกำไรขั้นต้น 590,659 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.50% ประกอบกับไม่มีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน และผลกระทบค่าใช้จ่ายการด้อยค่าสินทรัพย์ ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 208,998 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 251.68% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน แม้ว่ายอดขายรวม 2,495,729 ล้านบาท ลดลง 2.27% ซึ่งเป็นผลจากหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค และหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์มียอดขายลดลง

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน บจ. มีทิศทางเดียวกับไตรมาส 3/59 โดยมีกำไรสุทธิ 681,389 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.94% และมียอดขายรวม 7,367,911 ล้านบาท ลดลง 4.41% จากงวดเดียวกันในปีก่อน

ด้านความสามารถการทำกำไรของ บจ. ปรับสูงขึ้นทั้งงวดไตรมาส 3 ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 23.67% เพิ่มขึ้นจาก 21.12% ของช่วงเดียวกันในปีก่อน และงวด 9 เดือน มีอัตรากำไรขั้นต้น 25.36% เพิ่มขึ้นจาก 22.52% ขณะที่โครงสร้างเงินทุนของ บจ. ยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) ณ สิ้นไตรมาส 3/2559 อยู่ที่ 1.22 เท่า ลดลงเล็กน้อยจาก 1.23 เท่า ในช่วงสิ้นปี 2558

ทั้งนี้ หากไม่รวมธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค และหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน ในไตรมาส 3/59 ยอดขายเพิ่มขึ้น 3.35% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 17.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับงวด 9 เดือน จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 4.51% และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 บจ. มีผลการดำเนินงานดีขึ้นต่อเนื่องสอดคล้องกับเศรษฐกิจมหภาคที่ฟื้นตัวจากธุรกิจภาคการบริการและการอุปโภคบริโภค โดยมี 9 หมวดธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานเติบโตดี คือ มียอดขาย กำไรสุทธิ และอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น ได้แก่ หมวดธนาคาร พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อาหารและเครื่องดื่ม เหล็ก แฟชั่น บรรจุภัณฑ์ ของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน บริการเฉพาะกิจ และ กระดาษและวัสดุการพิมพ์"นายสันติ กล่าว

ด้านผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน ในไตรมาส 3/59 บจ. mai มีกำไรสุทธิ 1,954 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.51% จากงวดเดียวกันปีก่อน และงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 6,137 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.05%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ