(เพิ่มเติม) AU คาดเปิดจองซื้อ IPO ไม่เกิน 165 ล้านหุ้น 14-16 ธ.ค. เข้าเทรด mai 23 ธ.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 6, 2016 13:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.อาฟเตอร์ ยู (AU) คาดเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 165 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.10 บาท หรือคิดเป็นจำนวนหุ้นไม่เกิน 22.8% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ โดยจะเปิดให้จองซื้อในช่วงวันที่ 14-16 ธ.ค.และ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 23 ธ.ค.

บมจ.อาฟเตอร์ ยู ดำเนินธุรกิจจำหน่ายขนมหวานและเบเกอรี่มากว่า 9 ปี โดยมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นของหวานและเครื่องดื่มกว่า 100 รายการ โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 2 ประเภท คือ ธุรกิจร้านขนมหวาน ธุรกิจการบริหารจัดงานนอกสถานที่และรับจ้างผลิตขนมหวานและเบเกอรี่ให้แก่ร้านอาหาร งานเลี้ยงสังสรรค์ งานกิจกรรมต่าง ๆ

นายอิสระ หวั่งหลี หัวหน้าฝ่ายตลาดทุน บล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของ AU เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ จะจัดสรรหุ้นจำนวน 161.5 ล้านหุ้น ให้แก่ประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 14-16 ธ.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการสำรวจความสนใจจองซื้อหุ้น (book building) หุ้นของบริษัทให้แก่นักลงทุนสถาบันในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ รวมถึงเสนอขายให้แก่นายธีรพงษ์ จันศิริ และนายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ ตามเงื่อนไขเงินกู้ ขณะที่จะจัดสรรหุ้นจำนวน 1.5 ล้านหุ้นให้แก่กรรมการของบริษัท และอีก 2 ล้านหุ้นจะเสนอขายให้แก่ผู้บริหารและพนักงานของบริษัท

นอกจากนี้ในวันแรกที่หุ้น AU จะเข้าซื้อขายใน mai นั้น กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะขายหุ้นบนกระดานใหญ่ (Big Lot) จำนวน 52.5 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 7.2% ให้กับนักลงทุนสถาบันในประเทศ ที่ราคา IPO เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของหุ้นด้วย โดยที่ผ่านมาได้มีการนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจจำนวนมาก เพราะบริษัทอยู่ในกลุ่มอาหารที่มีการเติบโตที่ดี และผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ในการนำพาบริษัทให้เติบโตได้อย่างมีศักยภาพ

นายแม่ทัพ ต.สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ AU กล่าวว่า บริษัทจะรักษาการเติบโตของยอดขายในปี 60 อยู่ที่ 40% เท่ากับปีนี้ โดยคาดว่ายอดขายของบริษัทในสิ้นปีจะทำได้ 580 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 439.4 ล้านบาท ตามการขยายสาขาเพิ่ม โดยในปี 60 บริษัทคาดว่าจะเปิดสาขาใหม่ราว 5-7 สาขา ใช้เงินลงทุน 4.5-7.5 ล้านบาท/สาขา และการออกสินค้าใหม่ 6-8 สินค้า/ปี รวมถึงมีแผนที่จะรับจ้างผลิตสินค้าให้กับบริษัทรายอื่น

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าจะมีจำนวนสาขาเพิ่มเป็น 30 สาขา ภายในปี 61 จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 20 สาขา โดยเน้นเปิดสาขาในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด และอนาคตมีแผนขยายไปต่างประเทศ โดยจะร่วมกับพันธมิตร นอกจากนี้บริษัทยังจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ ให้ใกล้เคียงกับช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ที่ 63.8% และ 17% ตามลำดับ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ