โบรกฯแนะ"ซื้อ"TPCH ขยับเป้าขึ้นมองกำไรโตสดใสช่วงปี 59-62 ,มี Upside โรงไฟฟ้าขยะชุมชน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 15, 2016 15:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง (TPCH) พร้อมขยับราคาเป้าหมายขึ้น หลังมองผลกำไรในช่วงปี 59-62 จะยังคงเติบโตสดใส จากกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามแผน แม้อาจมีความล่าช้าในการก่อสร้างบ้าง แต่ยังเป็นจุดที่รับได้ โดยจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ที่จะทยอยเข้าระบบอีก 19 เมกะวัตต์ (MW) ในปี 60 และอีก 49 MW ในปี 61

นอกจากนี้ TPCH ก็ยังคงแสวงหาโอกาสใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น การศึกษาโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาว 80 เมกะวัตต์ (MW) คาดว่าจะลงนาม MOU ในต้นปี 60 อีกด้วย รวมถึงยังมี Upside จากโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่ได้จับมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นนทบุรี เพื่อเตรียมยื่นข้อเสนอขอขายไฟฟ้ากับภาครัฐ ขณะที่อบจ.นนทบุรี เป็น 1 ในหน่วยงานที่เป็นเจ้าของโครงการอยู่ในบัญชีโครงการกำจัดขยะของภาครัฐ

ราคาหุ้น TPCH พักเที่ยงไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 18.30 บาท ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยลดลง 0.19%

          บัวหลวง                          ซื้อ                    23.00
          กสิกรไทย                         ซื้อ                    24.00
          โนมูระ พัฒนสิน                     ซื้อ                    24.90
          เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)       ซื้อ                    21.60
          ฟินันเซีย ไซรัส                     ซื้อ                    23.00
นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดว่า TPCH จะเดินหน้าผลักดันผลประกอบการมาทำระดับสูงสุดใหม่ในไตรมาส 4/59 และต่อเนื่องติดต่อกัน 3 ไตรมาส จากการเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG) ขนาด 9.2 MW เมื่อเดือน ต.ค.59 ซึ่งนับเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งที่ 4 ที่เริ่มบันทึกรายได้ และหนุนให้ TPCH มีกำลังการผลิตที่ COD แล้วทั้งหมด 34.4 MW

นอกจากนี้ TPCH ยังเดินหน้าขยายการลงทุนพลังงานทดแทนประเภทอื่น โดยเมื่อวันที่ 25 ต.ค.59 บริษัทได้ประกาศเข้าซื้อหุ้นในบริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด (SP) ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจพลังงานทดแทนจากขยะชุมชนเพิ่มอีก 5% ของทุนจดทะเบียน จากเดิมถืออยู่ 45% ส่งผลให้ TPCH ถือหุ้นเพิ่มเป็น 50%

กรณีดังกล่าวผลักดันมูลค่าพื้นฐานบนโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 8 MW เพิ่มขึ้น 0.15 บาท/หุ้น โนมูระฯ ได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของ TPCH อีก 0.15 บาท/หุ้น มาที่ 24.90 บาท/หุ้น ประกอบกับ ยังมีปัจจัยบวกจากการที่ TPCH มองหาการลงทุนในพลังงานทดแทนประเภทอื่น ๆ ในต่างประเทศ เพื่อสร้างฐานการผลิตไฟฟ้าในระยะยาวต่อเนื่องด้วย

อนึ่ง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ออกประกาศและหลักเกณฑ์การจัดหาไฟฟ้าจากขยะชุมชนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการแข่งขันด้านราคา (Competitive Bidding) ซึ่งมีเป้าหมายการรับซื้อประมาณ 80 MW พร้อมทั้งประกาศข้อมูลพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเข้าร่วมโครงการ 8 พื้นที่ รวมถึงอบจ.นนทบุรี (2)-(3) โดยเปิดให้ยื่นคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้าในวันที่ 1-2 มี.ค.60 และจะประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกภายในวันที่ 31 มี.ค.60 ซึ่งผู้ได้รับคัดเลือกจะต้อง COD ภายในวันที่ 31 ธ.ค.62

ก่อนหน้านี้ผู้บริหารของ TPCH ระบุว่า SP ซึ่งเป็นผู้ได้รับสัญญาบริหารจัดการขยะจาก อบจ.นนทบุรี มีแผนที่จะเสนอขายไฟฟ้าจากขยะชุมชนให้กับภาครัฐราว 8 MW ด้วย

ด้านนักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า TPCH เป็นผู้ประกอบการพลังงานทดแทนที่แข็งแกร่งในด้านชีวมวล และมีปัจจัยบวกต่อเนื่องทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว โดยในระยะสั้นผลประกอบการไตรมาส 4/59 ควรจะทำระดับสูงสุดใหม่ โดยกำไรสุทธิน่าจะอยู่ที่ประมาณ 75-85 ล้านบาท ในระยะกลางมองว่าความกังวลต่อการได้รับอนุญาตรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโรงไฟฟ้าปัตตานี (PTG1) จะได้ข้อสรุปภายในเดือนนี้ ซึ่งจะทำให้ TPCH สามารถยื่นขอสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ต่อ และคาดว่าจะได้รับการตอบรับภายในไตรมาส 1/60

ขณะที่ระยะยาวมองว่า TPCH นั้นแข็งแกร่งในด้านการเติบโตของกำไรซึ่งมากถึงเฉลี่ยปีละ 136% ในช่วงปี 59-61 และคาดกำไรจะโตต่อเนื่องจนถึงอย่างน้อยปี 63

ทั้งนี้ ในปี 60 ภาพรวมของกลุ่มพลังงานทดแทนจะดีขึ้น เนื่องจากจะมีกำลังการผลิตใหม่ออกมาให้เข้าร่วมประมาณ 1000 MW โดยคาดเป็นชีวมวล 400 MW ซึ่ง TPCH มีโอกาสชนะการประมูลรอบใหม่สูง โดย TPCH คาดหวังจะชนะประมูลกำลังการผลิตใหม่ 50 MW จากรอบนี้

ขณะเดียวกันก็จะเข้าร่วมโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่ทาง กกพ.กำลังจะเปิดรับนั้น คาดว่าจะสร้าง Upside ได้ประมาณ 4.2% ต่อราคาเป้าหมาย นอกจากนี้ โครงการพลังน้ำจากเขื่อนในลาว 80 MW คาดว่าจะได้ข้อสรุปเซ็น MOU กับทางรัฐบาลลาวได้ในเดือนม.ค.60

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของ TPCH เป็น 21.60 บาท/หุ้น จาก 21.10 บาท/หุ้น จากผลกำไรที่แนวโน้มขยายตัวโดดเด่นตลอด 3 ปีข้างหน้า จากโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ทยอยจ่ายไฟฟ้าต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4/59 จนถึงไตรมาส 4/61 ทำให้กำลังการผลิตจะผ่านระดับ 100 MW ได้ภายในปี 61 เทียบกับระดับเพียง 9 MW ในปี 57

ขณะเดียวกันยังมี Upside จากโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 8 MW ที่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น พร้อมกับการเตรียมลงนาม MOU เพื่อศึกษาทำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาวที่จะเริ่มต้นในไตรมาส 1/60 อีกด้วย

นอกเหนือจากโรงไฟฟ้าทุ่งสังที่เริ่มจ่ายไฟฟ้าในเดือน ต.ค.59 ไปแล้ว ในปี 60 จะมีโรงไฟฟ้าอีก 2 แห่งที่จ.พัทลุง และสตูล ทยอยขายไฟฟ้าในไตรมาส 1/60 และไตรมาส 2/60 ทำให้ในปี 60 จะมีโรงไฟฟ้าที่ COD แล้วเพิ่มเป็น 53 MW จาก 34 MW ในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้น 56%

หลังจากนั้นจะมีโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ขึ้น คือโรงไฟฟ้ามวล จ.ปัตตานี (PTG1) ขนาด 23 MW จะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในราวไตรมาส 2/61 ตามด้วยโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็ก 3 แห่งที่ TPCH ชนะประมูล FiT bidding ก่อนหน้ารวม 26 MW ซึ่งได้ผ่ากระบวนการประชาพิจารณ์แล้วก็จะจ่ายไฟฟ้าราวไตรมาส 4/61 ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าที่ COD ในปี 61 จะแตะ 102 MW เพิ่มขึ้น 92% จากปี 60 ทำให้ภาพผลกำไรในช่วงปี 59-62 จะยังคงเติบโตอย่างสดใส ขณะที่ SP กำลังเตรียมพร้อมเพื่อยื่นเสนอขายไฟฟ้าจากขยะชุมชน ขนาด 8 MW ในวันที่ 1-2 มี.ค.60 ตามประกาศของกกพ.ซึ่งประเด็นสำคัญคือ กกพ.ได้กำหนดพื้นที่ศักยภาพไว้ 8 แห่ง ซึ่ง 1 ในนั้นคือพื้นที่ของ อบจ.นนทบุรี ซึ่ง SP เป็นผู้ได้รับสิทธิบริหารขยะใน อ.ไทรน้อย อยู่แล้ว อีกทั้ง พื้นที่ดังกล่าวมีปริมาณขยะสะสม 3.8 ล้านตัน ซึ่ง TPCH ประเมินว่าจะนำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงขยะอัดแท่ง (RDF) ได้ 1.7 ล้านตัน ซึ่งเพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้าไปอีก 28 ปี มากเกินกว่าสัญญารับซื้อไฟฟ้ายาวนาน 20 ปี ทำให้จึงมีโอกาสสูงที่ TPCH จะได้รับการคัดเลือก โดยประเมิน Upside เบื้องต้นเพิ่มได้ราว 1 บาท/หุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ