โบรกฯเชียร์"ซื้อ"BEAUTY มองผลงานโตเด่นปี 59-60 รับอานิสงส์"ช็อปช่วยชาติ"-ขยายตลาด-ลูกค้าจีนหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 20, 2016 14:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้นบมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) มองผลดำเนินงานมีศักยภาพเติบโตเด่นและยังดีต่อเนื่องจากยอดขายทั้งในและต่างประเทศ โดยยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เติบโตได้กว่า 15% ในช่วงที่ผ่านมา และมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงช่องทางการขายอื่น ๆ ที่ช่วยผลักดันยอดขายเติบโตด้วย อย่างโมเดิร์นเทรด , E-commerce

ทั้งนี้ ธุรกิจความงามอยู่ในแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ และยังให้มาร์จิ้นสูง ปัจจุบัน BEAUTY ขยายสาขาต่างประเทศ 39 สาขา โดยเฉพาะใน AEC ขณะที่สาขาในประเทศกว่า 300 สาขา ยังได้รับประโยชน์จากลูกค้านักท่องเที่ยวชาวจีนที่ซื้อสินค้าเพื่อนำกลับไปขายต่อ และยังได้อานิสงส์จากมาตรการช็อปช่วยชาติ ซึ่งจะช่วยหนุนผลงานในไตรมาส 4/59 ให้เติบโตนอกเหนือจากที่ได้รับประโยชน์จากช่วงไฮซีซั่นอยู่แล้ว

ผลการดำเนินงานของ BEAUTY ในปี 59 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ในช่วง 670-690 ล้านบาท เติบโต 66.5-71% จากปี 58 และในปี 60 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ในช่วง 747-961 ล้านบาท เติบโต 11-39% อีกทั้งฐานะการเงินของ BEAUTY แข็งแกร่ง

ราคาหุ้น BEAUTY พักเที่ยงอยู่ที่ 12.10 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.56%

          โบรกเกอร์                         คำแนะนำ                    ราคาพื้นฐาน(บาท)
          กสิกรไทย                            ซื้อ                           15.50
          ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)           ซื้อ                           14.50
          เออีซี                               ซื้อ                           14.00
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)                   ซื้อ                           12.40
          กรุงศรี                              ซื้อ                           13.50

น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ธุรกิจความงามอยู่ในแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ และตลาดฯก็อยู่ในช่วงขาขึ้น โดย Cosmetic Market ยังเติบโตได้ดี และให้มาริ์จิ้นที่ดีด้วย ซึ่ง BEAUTY ก็ทำธุรกิจนี้มาตั้งแต่ต้น และจับลูกค้าในทุก ๆ ตลาด ทั้งเด็ก, คนทำงาน เป็นต้น

ผลการดำเนินงานของ BEAUTY ที่ผ่านมาพบว่า ยอดขายสาขาเดิมเติบโตที่ดี มากกว่า 15% และมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมไปถึงเห็นช่องทางการขายอื่น ๆ ที่ช่วยให้ยอดขายเติบโตด้วย อย่างการขายผ่านออนไลน์, E-commerce ,โมเดิร์นเทรด อีกทั้งฐานะการเงินของ BEAUTY ก็แข็งแกร่ง ไม่ค่อยมีหนี้ และยังได้อานิสงส์จากมาตรการช็อปช่วยชาติอีกด้วย

ปัจจุบัน BEAUTY มีการขยายสาขาไปยังต่างประเทศ 39 สาขา โดยเฉพาะการไปบุกตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยไปยังกัมพูชา 7 สาขา, เมียนมา 2 สาขา, ลาว 2 สาขา, เวียดนาม 28 สาขา ส่วนสาขาในประเทศมีทั้งหมดกว่า 300 สาขา ซึ่ง BEAUTY จะได้ลูกค้าชาวจีนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีนที่มาซื้อสินค้ากลับไปขายต่อที่จีน อาจเป็นเพราะสินค้าของ BEAUTY ได้รับความนิยม

ผลการดำเนินงานของ BEAUTY ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ทำกำไรไปได้แล้ว 71% ของประมาณการทั้งปีที่ 674 ล้านบาท เติบโต 67.5% จากปี 58 และในปี 60 ก็คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 747 ล้านบาท เติบโต 11% จากปีนี้ สำหรับไตรมาส 4/59 ก็คาดว่า BEAUTY จะมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง

ด้าน บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ผลดำเนินงานของ BEAUTY มีศักยภาพโตเด่นและยังดีต่อเนื่องจากยอดขายทั้งในและต่างประเทศที่คาดเพิ่มขึ้น โดยในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรคิดเป็น 82% ของประมาณการทั้งปี บวกกับช่วงไตรมาส 4/59 คาดว่าผลดำเนินงานยังโตสดใสเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถึงแม้ปีนี้บรรยากาศจับจ่ายใช้สอยอาจไม่คึกคักเหมือนเช่นทุกปี แต่เนื่องจากผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลผิวพรรณ จึงคาดจะกระทบยอดขายในประเทศจำกัด

ขณะที่ยอดขายต่างประเทศยังเติบโตได้ดีทั้งรูปแบบการแต่งตั้ง Distributor อย่างเป็นทางการ และการขายส่งแบบ Wholesalers หลังผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวเอเชีย เนื่องจากมีสภาพผิวใกล้เคียงกัน

ดังนั้น จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรตั้งแต่ปี 59 เฉลี่ยปีละ 17% โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาดปีนี้ BEAUTY จะมีกำไรสุทธิ 670 ล้านบาท โต 66.5% จากปีที่แล้ว และเติบโตต่อ 37.6% ในปี 60

ส่วนบทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี มองว่า BEAUTY มีสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครบถ้วน รวมถึงการเตรียมพร้อมในเรื่องบุคลากรและการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีศักยภาพในการเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมจาก SSSG เฉลี่ยสูงถึง 28% และมีอัตรากำไรสุทธิที่สูงกว่ากลุ่มค้าปลีก เพื่อสะท้อนการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่ดีเกินคาด

ในช่วงไตรมาส 4/59 ถือเป็น High season และยอดขายที่เกิดขึ้นจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย อย่างโมเดิร์นเทรด, E-commerce และตลาดต่างประเทศที่คาดว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการควบคุมการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น อีกทั้งได้ผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากนักท่องเที่ยวจีนที่จะชะลอการท่องเที่ยวในไทย เนื่องจากยอดขายจากจีนส่วนใหญ่เกิดการซื้อของ retailer เพื่อนำไปจำหน่ายต่อในประเทศ

ดังนั้น จึงได้ปรับประมาณการกำไรสำหรับปี 59-60 เพิ่มขึ้น 23-26% โดยคาดกำไรสุทธิปี 59 อยู่ที่ 690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% จากปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 39% มาอยู่ที่ 961 ล้านบาทในปี 60


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ