POLAR พุ่ง 23.08% หลัง ตลท.ปลด SP เช้านี้พร้อมเตือนศึกษาข้อมูลอย่างระมัดระวัง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 21, 2016 10:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น POLAR ราคาพุ่งพรวดขึ้น 23.08% หลังตลาดปลดเครื่องหมาย SP โดยมาอยู่ที่ 0.16 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท มูลค่าซื้อขาย 93.92 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.07 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.13 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.16 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.13 บาท ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปลดเครื่องหมาย"SP"(Suspension) หลักทรัพย์ของ บมจ.โพลาริส แคปปิตัล (POLAR) ตั้งแต่การซื้อขายหลักทรัพย์รอบเช้าของวันนี้ เนื่องจากบริษัทได้นำส่งงบการเงินดังกล่าวครบถ้วนแล้ว พร้อมทั้งขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลรายงานผู้สอบบัญชี ตัวเลขในงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินของ POLAR อย่างระมัดระวังก่อนการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทและติดตามคำชี้แจงของบริษัทต่อไป

อนึ่ง งบการเงินไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 ที่บริษัทนำส่งมายังตลาดหลักทรัพย์นั้น ผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตต่องบการเงินในรายการสำคัญต่างๆ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ได้มีหนังสือขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเผยแพร่ผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 27 ธันวาคม 2559 เพื่อให้ผู้ลงทุนได้ทราบข้อมูลที่สำคัญของบริษัทในประเด็นดังต่อไปนี้

1. รายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการลงทุน

1.1 ความสามารถของบริษัทกลอรี่ แอคเม่ จำกัด (บริษัทร่วม 49%) ในการจ่ายเงินที่เหลือตามสัญญาเช่าโครงการ The Sherwood (มูลค่าตามสัญญา 107.19 ล้านปอนด์ หรือ 5,574 ล้านบาท) และความสามารถในการจ่ายคืนเงินกู้ยืมแก่ POLAR เนื่องจาก POLAR ได้ตั้งค่าเผื่อเงินให้กู้ยืมดังกล่าว 73.39 ล้านบาท รวมทั้งผลกระทบต่อ POLAR จากการเป็นผู้ค้ำประกันสัญญาเช่าโครงการ The Sherwood

1.2 รายการวางเงินมัดจำ 120 ล้านบาท เพื่อเข้าทำ Due Diligence บริษัทเดย์ โพเอทส์ จำกัด โดยมีแหล่งเงินทุนจากการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน 100 ล้านบาท แต่นำที่ดินมูลค่า 189 ล้านบาทไปใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ดังกล่าว

1.3 ความสมเหตุสมผลของการเงินจ่ายล่วงหน้าแก่บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) 17 ล้านบาท คิดเป็น 26.16% ของมูลค่าตามสัญญาจ้าง 64.99 ล้านบาท ในการเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติ เพื่อนำไปพัฒนาโครงการที่ดิน จ.พังงา

2. รายการเกี่ยวกับค่าเผื่อด้อยค่าสินทรัพย์ที่สำคัญ โดยเฉพาะค่าเผื่อด้อยค่าเงินมัดจำค่าที่ดินที่ถนนพหลโยธินตัดใหม่ทั้งจำนวน 350 ล้านบาทโดยที่ยังไม่ครบกำหนดชำระค่าที่ดินส่วนที่เหลือ (ครบกำหนดชำระภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2560)

3. ผลกระทบการปรับปรุงรายการทางบัญชีของงบการเงินประจำปี 2558 ย้อนหลัง ซึ่งเป็นผลให้ผลการดำเนินงานปี 2558 บริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้นจาก (162.73) ล้านบาท เป็น (378.13) ล้านบาท

4. การซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้บัญชีเครดิตบาลานซ์ในวงเงิน 201.48 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ