ธนารักษ์ จับมือ รพ.รามาธิบดี ผุด Senior Complex ที่ราชพัสดุสมุทรปราการเริ่มสร้างปีงบ 60

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 27, 2017 18:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 กรมธนารักษ์ และมหาวิทยาลัยมหิดล โดยโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้มีความตกลงร่วมกันที่จะดำเนินโครงการสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร (Senior Complex) ในที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สป.623 (บางส่วน) และ สป.646 (บางส่วน) ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่รวม 72-1-97 ไร่ มูลค่าที่ดินประมาณ 49.48 ล้านบาท โดยจังหวัดสมุทรปราการจะเป็นโครงการนำร่อง

ทั้งนี้ กรมธนารักษ์จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนที่ราชพัสดุ จังหวัดสมุทรปราการเป็นผู้กำกับดูแลการดำเนินโครงการฯ และมหาวิทยาลัยมหิดล โดยโรงพยาบาลรามาธิบดี จะดำเนินการก่อสร้างโครงการ Senior Complex ตามเงื่อนไขที่กรมธนารักษ์กำหนด ซึ่งใน Masterplan จะแบ่งพื้นที่เป็น 3 โซน คือ 1.Hospice Zone เนื้อที่ประมาณ 32 ไร่ 2.Senior Housing Zone เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ และ 3.Nursing Home Zone เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ และโรงพยาบาลรามาธิบดี จะดำเนินโครงการ Senior Complex โดยเร็ว หลังจากได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ดินราชพัสดุจากกรมธนารักษ์ คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปีงบประมาณ พ.ศ.2560

"หลังจากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุม ครม.แล้ว จะเริ่มก่อสร้างได้ทันทีภายในปีงบประมาณ 60 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3-4 ปี" อธิบดีกรมธนารักษ์ ระบุ

อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวต่อว่า การดำเนินโครงการสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้อายุแบบครบวงจร (Senior Complex) ในที่ราชพัสดุนั้น กรมธนารักษ์ยังจะได้ดำเนินการสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุใน 4 พื้นที่ ได้แก่ 1) จังหวัดชลบุรี 2) จังหวัดนครนายก 3) จังหวัดเชียงราย และ 4) จังหวัดเชียงใหม่ โดยกำหนดผลตอบแทนตามหลักประชารัฐ กล่าวคือ ค่าเช่า ตารางวาละ 1 บาท ต่อเดือน ค่าธรรมเนียมการจัดให้เช่า 2 เท่าของค่าเช่า 1 ปี ยกเว้นเชียงใหม่กำหนดตามระเบียบกระทรวงการคลัง

นอกจากนี้ ทางด้านภาครัฐและภาคสังคมจะได้ผลประโยชน์จากการดำเนินโครงการ Senior Complex โดยผู้สูงอายุมีที่พักอาศัยบนที่ดินราชพัสดุพร้อมอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุโดยเฉพาะ มีระบบการดูแลสุขภาพและสวัสดิการอื่นๆ แบบครบวงจร ตลอดจนเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ และประหยัดงบประมาณรายจ่ายในการดูแลผู้สูงอายุอีกด้วย

สำหรับผู้สูงอายุที่มีสิทธิจะเข้าอยู่ในโครงการดังกล่าวจะต้องมีอายุ 55 ปีขึ้นไป มีสัญญาการเข้าพักอาศัย 30 ปี และจะต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนกลางประมาณ 1 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งในจำนวนนี้ยังไม่รวมค่าอาหาร และค่ารักษาพยาบาล ส่วนราคาขายของแต่ละยูนิตนั้นขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน เพราะจะขึ้นอยู่กับขนาดที่มีตั้งแต่ 30-55 ตารางเมตร และขึ้นกับโซนที่เข้าอยู่อาศัยด้วย โดยกรมธนารักษ์คาดว่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนก่อนนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนนตรีภายในเดือน ก.พ.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ