นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า ในวันที่ 22-27 ก.พ.60 บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย หุ้น ซีแอลเอ็มวีที ( KT-CLMVT) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท ซึ่งเป็นกองทุนแรกในประเทศไทยที่เข้าไปลงทุนในหุ้นแบบรายตัวในกลุ่มประเทศ CLMV
กองทุนนี้มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งประกอบไปด้วย โดยเฉพาะประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม รวมทั้งลงทุนหุ้นในประเทศอื่นๆ ที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีใม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนที่เหลืออาจจะพิจารณาลงทุนในหุ้นที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น รวมทั้งหุ้นกู้ อนุพันธ์อ้างอิงกับหุ้นสามัญ ตราสารหนี้ เงินฝาก หรือหลักทรัพย์ และทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธอื่นที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ก.ล.ต. ทั้งในและต่างประเทศ โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
บริษัทมีเป้าหมายกระจายการลงทุนโดย ลงทุนในหุ้นไทยประมาณ 40% ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศ CLMV กองทุนนี้ ผู้บริหาร ผู้จัดการกองทุน และฝ่ายวิจัยได้ลงพื้นที่กลุ่มประเทศ CLMV พบปะผู้บริหารบริษัทต่างๆ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล มาทำการวิเคราะห์ คัดกรองหลักทรัพย์ที่เหมาะสมไว้ในกองทุนนี้
กลุ่มประเทศ CLMV มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น GDP Growth โดดเด่นในภูมิภาค ตลอด 5-8 ปี ที่ผ่านมา และแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต จากเม็ดเงินลงทุนไหลเข้า การเคลื่อนย้านฐานการผลิตจากจีนและไทยที่มีค่าแรงเฉลี่ยแพงกว่าเท่าตัว การส่งออก การท่องเที่ยว และบริโภคภายในประเทศ ที่มีอัตราการเติบโตที่ดี รวมทั้งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล นอกจากนี้ ยังเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยทรัพยากร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในระดับสูง ประชากรวัยหนุ่มสาว มีจำนวนมาก เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อมาก และกลุ่มประเทศ CLMV เข้ามามีบทบาทบนเวทีการค้าโลกมากขึ้น ที่ผ่านมา CLMV มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นในภูมิภาค GDP Growth ในปี 54-58 เฉลี่ยประมาณ 7% จากการเป็นฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ การส่งออก การท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศที่ยังสามารถขยายตัวได้อีกมาก ซึ่ง IMF คาดว่า กลุ่มประเทศ CLMV มีโอกาสที่จะเติบโตได้เกินกว่า 6 % ไปในอีกระยะ5 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเวียดนาม น่าสนใจเนื่องจาก Market cap ต่อ GDP ของตลาดหุ้นเวียดนามยังอยู่ในระดับต่ำเทียบเท่ากับตลาดหุ้นไทย เมื่อ 18 ปีที่แล้ว ขนาดของตลาดทุนมีแนวโน้มขยายตัวตามปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การขยายเพดานสัดส่วนการถือครองนักลงทุนต่างชาติ และความสนใจของนักลงทุนต่างชาติในการเข้ามาลงทุนในตลาดเกิดใหม่ที่ยังมีโอกาสเติบโตสูง
จุดเด่นของกองทุน KT-CLMVT มีรูปแบบการบริหารกองทุนเชิงรุก เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี มีการกระจายการลงทุนในหลากหลายประเทศ เน้นลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในกลุ่มประเทศ CLMV โดยมุ่งหวังการเติบโตจากมูลค่าของเงินลงทุนในระยาว