LHBANK มั่นใจสินเชื่อปีนี้โตตามเป้า 6-10% แม้ GDP อาจต่ำกว่าคาด, ยันไม่ล้มดีลพันธมิตรไต้หวัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 23, 2017 15:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางศศิธร พงศธร กรรมการบริหาร และ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงมั่นใจว่าสินเชื่อภายในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เติบโต 6-10% แม้ว่าแนวโนิมการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าอาจเติบโตไม่ถึงเป้าหมายที่ 3.2% เพราะยังมีปัจจัยลบเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวนสูง จากความไม่แน่นอนของนโยบายประธานาธิบดีสหรัฐฯ และปัญหาการเมืองของแต่ละประเทศ อีกทั้งการลงทุนเอกชนยังชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะการลงทุนของภาครัฐยังไม่ออกมาอย่างชัดเจน

ธนาคารคาดว่าปีนี้จะมีการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ 8,0000-15,0000 ล้านบาท จาก ณ สิ้นปี 59 มีพอร์ตสินเชื่อคงค้างที่ 1.5 แสนล้านบาท โดยการขยายตัวของสินเชื่อไนปีนี้จะมาจากสินเชื่อรายใหญ่ที่ตั้งเป้าเติบโต 11% สินเชื่อรายย่อยตั้งเป้าเติบโต 20% โดยสินเชื่อรายย่อยของธนาคารจะพยายามขยายการให้สินเชื่อไปนอกกลุ่ม LH มากขึ้นจากเดิมที่เน้นขยายแต่ในเครือ LH อย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มสินเชื่อในช่วงไตรมาส 1/60 อาจชะลอลงจากไตรมาส 4/59 ซึ่งเป็นการชะลอตัวจากฐานที่สูง ประกอบกับมีการชำระคืนของลูกค้าเข้ามามาก "เรามองปีนี้สินเชื่อจะดีขึ้นจากตลาดตราสารหนี้ที่เริ่มมีปัญหา ความต้องการสินเชื่อก็เลยกลับมา จากปีก่อนที่มีการออกตราสารหนี้กันมาก ทำให้สินเชื่อต่ำกว่าจีดีพี"นางศศิธร กล่าว

ด้านสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารในปีนี้จะควบคุมไม่ให้เกิน 2% จากสิ้นปี 59 ที่อยู่ 1.7% โดยการบริหารจัดการลูกหนี้อย่างมีประสิทธิภาพและอาจมีการขายหนี้ออกไปบางส่วน

นางศศิธร ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเข้ามาร่วมทุนของ CTBC BANK จากไต้หวันในสัดส่วน 35.61% ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากธนาคารกลางของไต้หวัน (BANK OF TAIWAN) ซึ่งส่งผลให้เกิดความล่าช้ากว่าแผนเดิม แต่ธนาคารยังยืนยันว่าแผนดังกล่าวจะไม่ถูกล้มเลิกไปแต่อย่างใด และก็ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด ซึ่งล่าช้ากว่าที่คาดไว้ หากกระบวนการดังกล่าวแล้วเสร็จจะมาถึงขั้นตอนที่ต้องได้รับการอนุมัติจากทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต่อไป

"เราไม่สามารถไปก้าวก่ายทางการของไต้หวันได้ว่าต้องเสร็จเมื่อไหร่ เพราะการที่เขาจะขนเงินออกมาจากประเทศเขาหลายหมื่นล้านบาท ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ โดยดีลของ LHBANK อาจจะนานมากกว่าตอนญี่ปุ่นเข้ามาซื้อ BAY ก็ได้ ซึ่งตอนนั้นใช้เวลานานถึง 2 ปี"นางศศิธร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ