(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์หลังยังไร้ปัจจัยเด่นชัด,รอดูนโยบายศก.-แผนลดภาษีของ"ทรัมป์"

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 24, 2017 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,560-1,575 จุด เนื่องจากตลาดฯไม่ได้มีปัจจัยอะไรเด่นชัด ขณะเดียวกันก็ยังรอดูนโยบายเศรษฐกิจ และแผนลดภาษี ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ

อย่างไรก็ดี เมื่อคืนที่ผ่านมาราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นก็น่าจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานให้ฟื้นขึ้นได้ และช่วงนี้เป็นช่วงประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ดังนั้นก็คงจะมีการเล่นเก็งกำไรตามงบฯกัน

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบเล็กน้อยเฉลี่ย 0-0.1% โดยคืนนี้ก็จะมีตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ และยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ ที่จะต้องติดตามดู แต่ส่วนใหญ่จะรอดูในวันที่ 28 ก.พ.ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรส

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (23 ก.พ.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,810.32 จุด เพิ่มขึ้น 34.72 จุด (+0.17%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,835.51 จุด ลดลง 25.12 จุด (-0.43%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,363.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด (+0.04%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 139.35 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 4.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.75 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 11.64 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 1.20 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 1.33 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.00 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 6.61 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 ก.พ.60) 1,567.32 จุด ลดลง 4.72 จุด (-0.30%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 78.56 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 ก.พ.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (23 ก.พ.60) ปิดที่ 54.45 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.6%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 ก.พ.60) ที่ 6.28 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.94/99 แนวโน้มยังแกว่งแคบ นลท.รอดูตัวเลขศก.สหรัฐฯสำคัญในสัปดาห์หน้า
  • นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้มาตรการสนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ครอบคลุมทั้งระบบ แต่โดยภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ราคาที่อยู่อาศัยสูงขึ้น ขณะที่สถาบันการเงินยังเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัย จึงต้องหาเครื่องมือเสริมให้ผู้บริโภคเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ส่วนผู้ประกอบการเชื่อว่าจะสามารถปรับตัวได้
  • รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้การจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และรายงานผลกระทบสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (อีเอชไอเอ) โรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ว่าจะเริ่มต้นใหม่หรือจะรับแนวทางคำตอบต่อประเด็นคำถามกว่า 200 ข้อ ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อยู่ระหว่างปรับปรุงคำตอบ รวมถึงคำตอบต่อข้อสังเกตของคณะกรรมการไตรภาคี
  • กระทรวงพาณิชย์ได้รับอนุมัติงบประมาณกลางจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาผลักดันโครงการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจฐานรากทั้งหมด ซึ่งในงบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาทนั้น จะจัดสรรงบประมาณจำนวน 3,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้พัฒนา 4 ตลาดหลัก ตามนโยบายของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ผลักดันตลาดกลาง เช่น ตลาดกลางสินค้า ตลาดสินค้าอัตลักษณ์ (ตลาดนิวเอสเคิร์ฟ) และตลาดชุมชนประชารัฐ โดยได้เพิ่มอีก 1 ตลาด คือ ตลาดต้องชม และนำมาเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว เพื่อสร้างจุดขายให้กับตลาดเหล่านี้ ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้แข็งแรงตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันเศรษฐกิจท้องถิ่น
  • ธปท.เผยเงินไหลเข้าไทยจากมุมมองต่างชาติเชื่อไทยเป็นแหล่ง Safe Haven พร้อมใช้เครื่องมือและมาตรการต่างๆ ในยุคผันผวน ชี้ปี 60 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 4% ระบุดอกเบี้ยตลาดการเงินไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว
  • นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า คลังจะเสนอลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือ 17% สำหรับคนที่เข้ามาทำงานในโครงการที่รับอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี และต้องเป็นโครงการใน 10 อุตสาหกรรมใหม่ที่รัฐบาลส่งเสริม

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 74 บาท กำไรสุทธิ 4Q59 ดีกว่าเราและตลาดคาด +4.5% Q-Q, +10.9% Y-Y ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 4.3 พันล้านบาท แม้ว่า SSSG จะติดลบเล็กน้อย -1% Y-Y แต่การเปิดสาขาใหม่ 131 แห่ง และมีรายได้จากช่องทางอื่นมาชดเชยการหยุดขายบัตรเติมเงิน AIS ได้ รวมทั้งกำไรของ MAKRO ออกมาดี ทำให้กำไรสุทธิทั้งปี +22% Y-Y โดยคาดกำไรปีนี้โตต่อเนื่อง 18.4% Y-Y
  • MALEE (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 130 บาท จากปัจจัยสำคัญ คือ ยอดขายต่างประเทศที่คาดว่าจะเติบโตในระดับสูงต่อเนื่อง หลังจากปี 59 เพิ่มขึ้นถึง 67%
  • BANPU(โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 21.75 บาท รายงานกำไรปี 59 ที่ 1.68 พันลบ. เติบโต เทียบกับปี 58 ขาดทุน 1.53 พันลบ. 109%YoY พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD 10 เม.ย.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ