J เตรียมเปิดพรีเซลล์คอนโดฯกลางปี,เล็งซื้อห้างเก่า 2 ดีล-ซื้อที่ดินพัฒนาอสังหาฯใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 27, 2017 17:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุพจน์ วรรณา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้ชื่อ Newera คอนโด Low Rise จำนวน 8 ชั้น ย่านถนนประดิษมนูธรรม มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท ซึ่งพร้อมเปิดให้จองได้ภายในกลางปีนี้ และน่าจะเริ่มโอนโครงการได้ในช่วงไตรมาส 1/61 โดยวางงบลงทุนรวมปีนี้อยู่ที่ประมาณ 1,400-1,500 ล้านบาท

ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อห้างสรรพสินค้าเก่า จำนวน 2 ดีล เพื่อรีโนเวทศูนย์การค้าภายใต้แบรนด์ The JAS หรือ The Jas Urban ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะขยายศูนย์การค้า The Jas Urban จำนวน 1 แห่ง/ปี คาดว่าปีนี้น่าจะเห็นความชัดเจนทั้งหมดทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมอีก แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด

สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 60 บริษัทยังคงเป้ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จาก 562 ล้านบาทในปีก่อน จากธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าศูนย์โทรศัพท์มือถือ ภายใต้ชื่อ“IT JUNCTION" ที่ปัจจุบันมีอยู่ 52 สาขา และในปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 8 สาขา และธุรกิจศูนย์การค้าชุมชนภายใต้ชื่อ The Jas ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ The Jas วังหิน , The Jas รามอินทรา และ The Jas Urban ศรีนครินทร์

ขณะที่ The Jas รามอินทรา ปีนี้จะเพิ่มในส่วนของ FoodCourt และสวนสนุกในร่มเฟส 2 ส่วน The Jas Urban ศรีนครินทร์ ปัจจุบันมียอดผู้เช่าเต็ม 100% จะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้เต็มปี

อย่างไรก็ตาม ในหลายพื้นที่บริษัทยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มอีก จากรายได้ค่าเช่าพื้นที่ รายได้จากการโฆษณาบนพื้นที่ของบริษัท และของพันธมิตรทางการค้า พร้อมกันนี้บริษัทได้แตกไลน์ธุรกิจเพิ่มเติมอีก เพื่อเข้ามาต่อยอดการเติบโตให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยล่าสุดเปิดตัว “TOTEM KINGDOM" สวนสนุกในร่มขนาดใหญ่แห่งแรกของบริษัท ให้เป็นอีกไฮไลท์หนึ่งที่จะสามารถดึง Traffic ของโครงการ Jas Urban ศรีนครินทร์ให้เพิ่มขึ้นมาได้

สำหรับผลงานในปี 59 นับเป็นอีกปีของการลงทุน เนื่องจากบริษัทเข้าไปรุกธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่ม ในทำเลที่มีศักยภาพ นับเป็นการสร้างฐานรายได้ที่แข็งแกร่ง มั่นคงในระยะยาว และกระจายความเสี่ยงในธุรกิจได้เป็นอย่างดี ทำให้ปัจจุบัน บริษัทมีพื้นที่เช่าในการบริหารสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งมา หรือมีพื้นที่เช่ารวมกว่า 53,000 ตารางเมตร ครอบคลุมทั่วประเทศ มีรายได้ค่าเช่าและบริการ 545.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 7.7% กำไรสุทธิ 5.6 ล้านบาท ลดลง 90.4% เนื่องจากต้นทุนค่าเช่าและบริการ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น และมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อผลตอบแทนในระยะยาว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ