(เพิ่มเติม) "พีซีเอ็น คอร์ป"ตั้ง APM เป็น FA เล็งยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดหุ้นใน Q2/60

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 28, 2017 12:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท พีซีเอ็น คอร์ป จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ พีซีเอ็น คอร์ป อยู่ระหว่างการดำเนินการปรับโครงสร้างทางการเงิน โครงสร้างการดำเนินธุรกิจ ให้มีความเหมาะสมเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และอยู่ในระหว่างการเตรียมแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งได้ในช่วงไตรมาส 2/60 เพื่อสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต

ทั้งนี้ พีซีเอ็น คอร์ป เป็นบริษัทที่มีความเป็นผู้นำด้านงานวิศวกรรมก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานโดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนในเขตพื้นที่ภาคเหนือจำนวนมาก ให้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่หลากหลายรูปแบบ อาทิ งานถนน งานท่าอากาศยาน งานอาคารรูปแบบต่างๆ ฯลฯ

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการพัฒนาและขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการนำเทคโนโลยีเครื่องจักรใหม่ๆเข้ามาใช้ในงานก่อสร้าง การพัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญงานวิศวกรรมสมัยใหม่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์แอสฟัลต์ ติกคอนกรีต เพื่อรองรับมาตรฐานงานก่อสร้างที่สูงขึ้น แผนการระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของบริษัทในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมศักยภาพและการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

นายณัฐนารถ สินธุนาวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พีซีเอ็น คอร์ป กล่าวว่า บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างหลากหลายรูปแบบทั้งการก่อสร้างประเภทระบบการคมนาคมและขนส่ง เช่น ถนนลาดยาง ถนนคอนกรีตสำเร็จรูป ทางขับท่าอากาศยาน สะพาน สะพานยกระดับ อุโมงค์ทางลอดการก่อสร้างประเภทอาคารที่ไม่ได้ใช้เพื่อการพาณิชย์ เช่น อาคารหอประชุม อาคารสถานประกอบการ อาคารสถาบันการศึกษา การก่อสร้างระบบนิเวศน์ที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น อ่างเก็บน้ำ ฝายน้ำล้น ระบบบำบัดน้ำเสีย คลองชลประทานส่งน้ำ และดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายแอสฟัลต์ติกคอนกรีต ในจังหวัดลำพูน จังหวัดลำปาง และจังหวัดเชียงใหม่

นอกจากนี้ยังมีบริษัทย่อย บริษัท เอเชี่ยน แอสฟัลท์ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางมะตอย ตามมาตรฐานอุตสาหกรรมการขนส่งและคมนาคม

สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวมในปี 57-59 มูลค่าเท่ากับ 497.01 ล้านบาท กำไรสุทธิ 38.69 ล้านบาท, รายได้ 796.76 ล้านบาท กำไรสุทธิ 80.13 ล้านบาท และ รายได้ 1,143.80 ล้านบาท กำไรสุทธิ 79.17 ล้านบาท ตามลำดับ ปัจจุบัน มีมูลค่างานในมือ (backlog) ราว 2,300 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างประเภท งานถนน สะพานและอุโมงค์ โดยในปี 60 บริษัทวางเป้าหมายรักษาอัตราการเติบโตเฉลี่ยไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 20-30%

“ภาพรวมธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีแนวโน้มเติบโตดี อานิสงส์หลักมาจากการเร่งรัดลงทุนโครงการเมกะโปรเจคของภาครัฐด้านโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทมองเห็นโอกาสการเติบโตในอนาคต จึงเตรียมยกระดับจากบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นหนึ่งเป็นชั้นหนึ่งพิเศษ เพื่อรองรับการขยายงานก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงการขยายงานไปยังภูมิภาคอื่น"นายณัฐนารถ กล่าว

นายณัฐนารถ เปิดเผยอีกว่า บริษัทวางเป้าการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่องที่เฉลี่ยปีละ 20-30% หลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แล้วก็เชื่อว่าจะช่วยขยายฐานทุนให้สามารถรับงานขนาดใหญ่ขึ้น และรองรับการขยายงานในต่างประเทศเพิ่มเติม ซึ่งบริษัทฯได้เข้าไปศึกษามาอย่างต่อเนื่องในเมียนมาและลาวช่วงระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเริ่มเข้าไปรับงานได้ในเร็ว ๆ นี่

ขณะที่บริษัทฯอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่รวม 1-1.2 พันล้านบาท แบ่งเป็นงานขนาดเล็กที่มีมูลค่าต่ำกว่า 100 ล้านบาท คาดว่าจะได้งานใหม่เข้ามาในปีนี้ราว 300 ล้านบาท ส่วนงานขนาดใหญ่ที่น่าจะได้รับในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าราว 700-800 ล้านบาท

"เรามีแผนเข้าตลาดหุ้นในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะขยายฐานทุนให้ใหญ่ขึ้น เพื่อที่จะรับงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และเพื่อที่จะรองรับการบุกไปยังประเทศพม่า และลาว ในเขตที่มีชายแดนติดกับภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งยังมีงานรับเหมาก่อสร้างที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของงานถนน"นายณัฐนารถ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ