(เพิ่มเติม1) THAI-แอร์บัส เซ็น MOU ร่วมพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานสนามบินอู่ตะเภา

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 8, 2017 19:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (TG MRO Complex Development) ณ ท่าอากาศยานอู่ตะเภา เพื่อเป็นศูนย์กลางการซ่อมบำรุงอากาศยานแห่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ระหว่างบมจ.การบินไทย (THAI) และบริษัท แอร์บัส เพื่อให้บริการแก่สายการบินทั่งภูมิภาคและทั่วโลก เพื่อสร้างรายได้ให้กับการบินไทยและประเทศไทยอย่างยั่งยืน

โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พ.ศ.2560-2564 เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO หรือ Maintenance, Repair and Overhaul) ที่ทันสมัยที่สุดในเอเชียแปซิฟิกเพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยด้วยมาตรฐานระดับสากล รวมทั้งส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบินตามนโยบายของรัฐบาล

จากข้อมูลของแอร์บัสระบุว่า เครื่องบินที่แอร์บัสผลิตและขายในสัดส่วนกว่า 40% อยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และเที่ยวบินก็มากอยู่ในเอเชีย ดังนั้นความต้องการซ่อมบำรุงมีมากขึ้น

นายสมคิด กล่าวว่า การที่แอร์บัสตัดสินเข้าร่วมโครงการกับการบินไทย เพราะเชื่อมั่นประเทศไทยสูง และมองไทยจะเป็นศูนย์กลางการบิน ทั้งนี้สะท้อนความมั่นใจของต่างประเทศที่มองว่าไทยเป็นเสาหลักของอาเซียน จึงถือว่าวันนี้เป็นนิมิตหมายอันดี นโยบายของเราจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค การมีศูนย์ซ่อมฯที่ทันสมัย จะเป็นธุรกิจที่ทำรายได้มหาศาลเข้าสู่ประเทศ

"สิ่งที่เราคิดสิ่งที่เราฝันมันเริ่มมาและกำลังขึ้นมา อนาคตข้างหน้าก็จะทยอยกันมา คอยดูต่อไป และแสดงว่าเขาเห็นศักยภาพของระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) ขณะนี้ไม่เพียงจะมีเรื่องการบิน แต่ยังมีทุกมิติอุตสาหกรรมใหม่เริ่มมา ด้วยการขับเคลื่อนของรัฐบาล โครงการลงทุนต่างๆที่กำลังดำเนินการโดยกระทรวงคมนาคมในปีนี้ และคาดว่าทุกอย่างจะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 1-2 ปีนี้ และหากเรายังรักษาสถานการณ์เช่นนี้ เชื่อว่าภายใน 3-4 ปี ประเทศไทยจะไปได้อีกไกล" นายสมคิด กล่าว

นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวว่า การบินไทยได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับแอร์บัสเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่จำเป็น และร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (TG MRO Complex Development) ณ ท่าอากาศยานอู่ตะเภา ซึ่งศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานแห่งใหม่จะให้บริการแก่สายการบินทั่วภูมิภาคและทั่วโลก เพื่อสร้างรายได้ให้กับการบินไทยและประเทศไทยอย่างยั่งยืน นำพาประเทศไทยไปสู่ Thailand 4.0 เป็นมหานครแห่งอนาคต Gateway to Asia

ภายหลังการลงนามข้อตกลงความร่วมมือ ทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ คาดแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค.60 หรือ ม.ค.61 จากนั้นก็นำดำเนินการลักษณะให้เอกชนเข้าร่วมทุน (PPP) ในปี 61 ซึ่งรัฐบาบสนับสนุนการบินไทยร่วมทุนกับแอร์บัส แต่ต้องรอผลการศึกษาก่อน

ด้านร.อ.มนตรี จำเรียง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาอย่างยั่งยืน THAI กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เริ่มโครงการตั้งแต่ พ.ย.59 โดยศึกษาและวิเคราะห์แนวโน้มความต้องการของตลาดเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการและได้ส่งเอกสารชี้ชวนการลงทุนโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา ซึ่งมีเพียงแอร์บัสได้แสดงความสนใจในธุรกิจในธุรกิจ

บริษัทฯ มีเป้าหมาย ครงการพัฒนาธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานให้มีความทันสมัยก้าวขึ้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของโลกและทำรายได้ให้การบินไทยอย่างยั่งยืน โดยมี 3 กลยุทธ์ คือ 1) Good Partnership ร่วมลงทุนกับผู้ผลิตอากาศยานที่มีศักยภาพสูง 2) 4 Great Pillars เน้นพัฒนากิจการสำคัญเพื่อสร้างรากฐานศูนย์ซ่อมฯ ได้แก่ ศูนย์ซ่อมใหญ่อากาศยานลำคัวกว้างและลำตัวแคบ, โรงซ่อมบำรุงอากาศยานอัจฉริยะ, ศูนย์ซ่อมวัสดุผสมสังเคราะห์ และศูนย์ฝึกอบรมช่างฝีมืออากาศยาน 3) 3 Base Mission คือการพัฒนาปรับปรุงศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานเดิมทั้งที่ท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิด้วยการพัฒนาโรงซ่อมอากาศยานด้วนเทคโนโลนีดิจิตอลและนวัตกรรมที่ทันสมัย

นายฟาบริซ เบรจิเย่ร์ ประธานบริษัท แอร์บัส กล่าวว่า โครงการใหม่ที่น่าตื่นเต้นนี้จะช่วยตอบสนองความต้องการสำหรับการให้บริการในการบำรุงรักษาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยจำนวนฝูงบินในภูมิภาคที่จะเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าหรือกว่า 15,000 ลำ ในอีก 20 ปีข้างหน้า โครงการนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีแก่ประเทศไทยในการพัฒนาขอบเขตการให้บริการในภาคธุรกิจการบิน

ทั้งนี้ ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานแห่งใหม่นี้จะเป็นหนึ่งในศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานที่มีความทันสมัยและครอบคลุมการบริการด้านการซ่อมบำรุงอากาศยานมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ให้บริการตั้งแต่การซ่อมบำรุงย่อยไปถึงการซ่อมบำรุงใหญ่สำหรับเครื่องบินในหลากหลายประเภท โดยจะนำเทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุดมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลการบำรุงรักษาเครื่องบิน รวมทั้งเทคนิคการตรวจสอบขั้นสูง นอกจากนี้ ยังมีโรงซ่อมอัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งศูนย์ฝึกอบรมช่างซ่อมบำรุงที่ผลิตช่างฝีมือ และนายช่างอากาศยาน ตามมาตรฐานระดับสากล รองรับการขยายตัวของธุรกิจซ่อมบำรุงอากาศยานในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ