SPRC ศึกษาแผนขยายกำลังกลั่นเป็น 1.7 แสนบาร์เรล/วัน จาก 1.65 แสนบาร์เรล/วันในปัจจุบัน เสนอบอร์ดตัดสินใจภายในปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 13, 2017 17:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิลเลียม ลูอิส สโตน กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนการขยายกำลังกลั่นน้ำมันเพิ่มเป็นราว 1.7 แสนบาร์เรล/วัน จาก 1.65 แสนบาร์เรล/วันในขณะนี้ คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการบริษัทตัดสินใจได้ภายในปีนี้ ซึ่งหากดำเนินการก็คาดว่าจะทำการเชื่อมระบบในช่วงหยุดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ที่คาดว่าจะมีขึ้นช่วงครึ่งหลังของปี 62 เป็นเวลา 33 วัน

"เรา shut down ครั้งล่าสุดเมื่อปี 57 เราลงทุนประมาณ 140 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นจากงบปกติที่ใช้ปีละ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มค่าการกลั่น เราสามารถเพิ่มค่าการกลั่นได้ 50 เซนต์ต่อบาร์เรล...มีโอกาสที่เราจะเพิ่ม capacity ในช่วง shut down ปี 62 ตอนนี้การออกแบบยังไม่สิ้นสุด ต้องรอบอร์ด approve ก่อนซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้"นายวิลเลียม กล่าว

นายวิลเลียม กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายกำลังการกลั่นน้ำมันด้วยการใช้ต้นทุนต่ำอย่างต่อเนื่อง จากระดับ 1.3 แสนบาร์เรล/วัน เป็น 1.55 แสนบาร์เรล/วัน เมื่อปี 41 และเป็นระดับ 1.65 แสนบาร์เรล/วันในปัจจุบัน

ในปีนี้บริษัทมีแผนการใช้กำลังการกลั่นเต็มที่ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ระดับ 1.62 แสนบาร์เรล/วัน เป็นการจำหน่ายภายในประเทศ 90% และส่งออก 10% กลับมาอยู่ในระดับปกติ จากปีก่อนที่จำหน่ายภายในประเทศ 88% และส่งออก 12% จากความต้องการใช้ในประเทศที่ลดลงในช่วงไว้อาลัย

สำหรับแผนงานในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนปกติ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการใช้เพื่อปรับปรุงและซ่อมบำรุงตามปกติราว 10 ล้านเหรียญสหรัฐ และใช้สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพค่าการกลั่นด้วยเงินลงทุนไม่มาก (BLIP) ที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่หลายปีก่อน ช่วยเพิ่มค่าการกลั่นได้ปีละ 25 เซนต์/บาร์เรล โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินการมาจนถึงปีที่แล้วโครงการ BLIP สามารถสร้างมาร์จิ้นได้ราว 2.69 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปีที่แล้ว

ทั้งนี้ โครงการ BLIP เป็นการปรับปรุงผลกำไรจากการเลือกใช้น้ำมันดิบและวัตถุดิบที่มีราคาต่ำลง แต่ได้ผลประโยชน์ที่มากขึ้น รวมถึงเพิ่มความสามารถในการทำกำไรจากการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ขั้นกลางสำหรับหน่วยแตกโมเลกุล ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและควบคุมการสูญเสียน้ำมัน เป็นต้น

ขณะที่ในปีนี้บริษัทประเมินค่าการกลั่น (GRM) ที่ไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันที่ระดับ 5-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในปีนี้ที่ระดับ 50-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เทียบจากปีก่อนที่มี GRM ที่ไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมัน ระดับ 6.68 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยที่ 41.3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

นายวิลเลียม ยืนยันว่า หุ้นบริษัทเป็นเพียงหุ้นปันผล ไม่ได้เป็นหุ้นปันผลและหุ้นที่มีอัตราการเติบโต (growth stock) จนกว่าคณะกรรมการบริษัทจะมีการอนุมัติโอกาสการลงทุนใหม่ ซึ่งมี 3 แนวทางที่เป็นไปได้ ได้แก่ การขยายกำลังการกลั่นอีกเท่าตัว หรืออีก 1.65 แสนบาร์เรล/วัน , การขยายไปสู่ธุรกิจปิโตรเคมี และการขยายไปสู่ธุรกิจค้าปลีก

"ทั้ง 3 แนวทาง เป็นเพียง option ของเรา ว่ามีโอกาสไปในแนวทางนั้นได้ แต่ยังไม่ใช่สิ่งที่เราจะทำ"นายวิลเลียม กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ