ปธ.บอร์ดTHAI ชี้แผน THAI GROUP ดัน NOK-ไทยสมายล์มีกำไรในปีนี้, มี 4 คนผ่านคุณสมบัติชิงตำแหน่งดีดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 16, 2017 10:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ประธานกรรมการ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ โดยมีการจัดตั้ง THAI GROUP เพื่อบริหารจัดการสายการบินที่อยู่ในกลุ่มเข้าด้วยกัน เพื่อให้การทำงานต้องสอดประสานซึ่งกันและกัน รองรับการแข่งขันที่สูงมาก ขณะที่ปัจจุบันมี 3 สายการบินที่อยู่ในกลุ่มบริษัท ทั้งสายการบินไทย ,ไทยสมายล์ และนกแอร์

“เรามีเครือข่ายอย่างไร เราต้องผนึกกำลังกัน เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ ก็เป็นสิ่งที่ยุทธศาสตร์จะต้องเดิน เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพมากขึ้น และในปีนี้ก็แน่นอน ไม่ว่าจะสายการบินใด ไม่ว่านกแอร์หรือไทยสมายล์ ทางฝ่ายบริหารและบอร์ดก็ดูเพื่อที่จะให้กำไรแน่นอน เพื่อให้มีกำไรให้ได้"ประธานกรรมการ THAI กล่าว

นายอารีพงศ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้เริ่มดำเนินการมาบ้างแล้ว โดยในส่วนของสายการบินไทยสมายล์ กับสายการบินไทยนั้น มีการบริหารเส้นทางร่วมกัน โดยศูนย์กลางการบริหารมาจากการบินไทย ทำให้การสนับสนุนระหว่างการบินไทยกับไทยสมายล์มีความชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเช่น การที่มีการตัดสินใจให้ไทยสมายล์ย้ายจากสนามบินดอนเมืองทั้งหมดไปอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็ถือเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าไทยสมายล์จะรองรับการเดินทางของการบินไทยที่มาจากต่างประเทศ ให้มีการวางตารางบินที่ต่อเนื่องกัน คือมาถึงเมืองไทยแล้วผู้โดยสารต้องการจะบินไปเมืองใดต่อ ก็จะใช้เวลารอไม่นาน มีการวางตารางเวลาให้ผู้โดยสารเกิดความสะดวกมากที่สุด

ขณะที่สายการบินนกแอร์ ของบมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) ที่ปัจจุบันการบินไทยถือหุ้นอยู่ราว 39% นั้น การบินไทยก็จะดูในเรื่องของการปฏิบัติงาน โดยนกแอร์ก็ต้องแก้ไขปัญหาของตนเอง และการบินไทยก็ต้องมีการช่วยแน่นอน ในเรื่องการสอดประสาน ให้ทำการบินกันได้ในลักษณะสนับสนุนกันและกันได้ โดยได้มีการหารือกันแล้วสรุปเป็นกรณี โดยไม่ได้สรุปทีเดียว

“(เรื่องการเปลี่ยนผู้บริหารนั้น) วันนี้ขอพูดถึงเท่านี้นะครับ เพราะแผนทั้งหลายมันเดินอยู่เรื่อยๆ ในการพิจารณา มันไม่ใช่ว่าวันนี้ไม่มีอะไรเดิน มันมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระบบการขาย ระบบการวางแผนการบินซึ่งกันและกัน วันนี้มาสู่จุดที่ว่า จุดเดียวกันแล้ว"นายอารีพงศ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายอารีพงศ์ไม่ให้ความเห็นเรื่องการจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน NOK หรือไม่ เพียงแต่ระบุว่าวันนี้ฝ่ายบริหารคุยกันอยู่ ซึ่งอยู่ระหว่างเดินเรื่องประสานงานให้เดินไปได้ทั้งหมด ที่ผ่านมาได้พูดคุยกัน และก็มีการปรับ เพราะทุกอย่างในการแข่งขันมันก็มีการปรับพัฒนาไปเรื่อย ๆ ไม่มีการหยุดยั้ง

นายอารีพงศ์ กล่าวอีกว่า วันนี้การบินไทยมีผลประกอบการออกมากำไร ไม่ได้ขาดทุน พร้อมกันนั้นบอร์ดและฝ่ายบริหารได้นัดคุยกับพนักงานในวันที่ 28 มี.ค.นี้ โดยเมื่อวานนี้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้ชี้แจงพนักงานให้เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกเรื่อง โดยที่ผ่านมาพนักงานก็เป็นห่วงการบินไทย อยากให้ฝ่ายบริหารบอร์ดนั้น ให้ชี้แจงแก่พนักงานให้เข้าใจ ซึ่งฝ่ายบริหารก็ยินดีและก็จะชี้แจงว่าทั้งหมดนั้นเป็นอย่างไร การขับเคลื่อนนั้นดีขึ้นทุกอย่าง และมีกำไรในปีที่แล้ว

“ เขาถามอะไร เราก็จะชี้แจงหมด เราก็จะรับมา หากเขาสงสัย ทั้งบอร์ดและผู้บริหารจะชี้แจงให้หมดทุกอย่าง ผมเองก็บอกว่าอยากจะพบอยู่แล้ว ก็จะไม่มีอะไรเป็นปัญหาล่ะครับ เขาก็แค่อยากมาทำความเข้าใจ เป็นเรื่องหน้าที่ของบอร์ดก็พร้อมจะเจอกับสหภาพแรงงาน" นายอารีพงศ์ กล่าว

ส่วนกรณีเรื่องโรลส์-รอยซ์นั้น การบินไทยส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว เอกสารที่ทางป.ป.ช.ขอบริษัทก็รีบดำเนินการให้หมด ก็เห็นว่ามีการแถลงจาก ป.ป.ช.ว่า ได้รับความร่วมมือจากการบินไทย เพราะฉะนั้นการบินไทยก็พร้อมสนับสนุนตลอดเวลาในเรื่องนี้

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัท รับทราบรายงานความคืบหน้าการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) ว่ามีผู้ผ่านคุณสมบัติแล้ว 4 คน ซึ่งมาทั้งจากภายในบริษัทและบุคคลภายนอก ขั้นตอนต่อไปจะเรียกมาแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งประธานสรรหาฯจะวางตารางเวลากันอีกคร้ง ทั้งนี้ หลายคนที่ตกคุณสมบัติเพราะการบินไทยเป็นองค์กรที่ทำธุรกิจกับบริษัทมากมาย ในจุดนี้ก็อาจจะทำให้ตกคุณสมบัติได้ ก็เลยใช้เวลานานมาก

อนึ่ง ผู้สมัครมีอยู่ 8 รายได้แก่ 1.นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินและการบัญชี บมจ.การบินไทย 2.นายศรีล สุขุม ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด หลานชายนายปิยะ ภิรมย์ภักดี ที่เคยมีประสบการณ์ทำงานด้านการตลาดให้กับสายการบินพีบีแอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจการบินของนายปิยะ 3. นายดนุช บุญนาค ที่ปรึกษาผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย 4. นายพฤทธิ์ บุปผาคำ ผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด หรืออีลิท การ์ด และเคยเป็นอดีตรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ (DN) ของการบินไทย

5.นายวิสิฐ ตันติสุนทร อดีตเลขาธิการ คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) 6.นายวิเชฐ ตันติวานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ซึ่งเป็นอดีตรองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) 7.นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที และ 8.นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล อดีตผู้ว่าการ การรถไฟฟ้ามวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

ด้านแหล่งข่าวคณะกรรมการ THAI กล่าวว่า บอร์ดได้พิจารณาให้การบินไทยเพิ่มทุนใน NOK ตามสัดส่วนที่ถืออยู่ ซึ่งใช้สิทธิของผู้ถือหุ้น (RO) แต่ยังไม่ได้พิจารณาที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุน NOK แบบขายนักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) ที่ทาง NOK เสนอมาที่การบินไทยด้วย โดยการซื้อหุ้นเพิ่มทุน NOK นั้น การบินไทยได้ให้ NOK ทำแผนฟื้นฟูด้วย

อนึ่ง เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ NOK อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1.41 พันล้านบาท จากเดิม 625 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 781.25 ล้านหุ้น จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 625 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 2.40 บาท กำหนดจองซื้อระหว่างวันที่ 16-19 และ 22 พ.ค.60

ขณะที่จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 156.25 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) NOK-W1 ที่จะออกวอร์แรนต์ไม่เกิน 156.25 ล้านหน่วย อายุ 3 ปี ที่จะจัดสรรให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 4 หุ้นเพิ่มทุนใหม่ต่อ 1 วอร์แรนต์ โดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นใหม่ที่ราคาหุ้นละ 5 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ