(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามภูมิภาค ขานรับเงินบาทยังแข็งค่า-Fund Flow ไหลเข้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 21, 2017 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรศักดิ์ ธนวรากุล นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคด้านตลาดทุน บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้น ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกกัน เนื่องจากค่าเงินบาทในช่วงสั้นยังคงแข็งค่า

ประกอบกับ Fund Flow ได้ไหลเข้ามาในตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดอนุพันธ์นักลงทุนต่างชาติเปิดสถานะ Long ไว้ค่อนข้างมาก มองว่าน่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยสามารถยืนในแดนบวกได้ถึงสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ คาดว่าจะมีการทำ Window Dressing ในช่วงปลายเดือนนี้ก่อนปิดงบฯไตรมาส 1/60 ด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,905.86 จุด ลดลง 8.76 จุด (-0.04%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,901.53 จุด เพิ่มขึ้น 0.53 จุด (+0.01%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,373.47 จุด ลดลง 4.78 จุด (-0.20%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 105.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.56 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 63.74 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 10.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.94 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.78 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.01 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 มี.ค.60) 1,563.54 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด (+0.16%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 777.67 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 มี.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 มี.ค.60) ปิดที่ 48.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 56 เซนต์ หรือ 1.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 มี.ค.60) ที่ 5.49 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.68 แข็งค่าจากวานนี้เล็กน้อย แต่แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค มองกรอบ 34.65-34.75
  • นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ด) เปิดเผยภายหลังการประชุมวานนี้ว่า ได้ข้อสรุปการกำหนดเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) รถไฟทางคู่ 5 สายแล้ว โดยจะยกเลิกทีโออาร์เก่าและเห็นว่าสัญญาเดิมใหญ่ไป ควรแยกสัญญาให้ลดลงเพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนรายกลางเข้าร่วมประมูลได้มากขึ้น
  • สหพัฒนพิบูล เผยจากแนวโน้มเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เริ่มฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.นี้ บริษัทมั่นใจว่าภาพรวมสินค้าอุปโภคบริโภคปีนี้น่าจะเติบโตเป็นบวกแน่ โดยในส่วนของบริษัทคาดว่าจะมีรายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 2559 ที่มีรายได้ 3.2 หมื่นล้านบาท
  • เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยแผนการลงทุนของ กอช.ในปี 60 ว่า เตรียมนำเงินสะสมและเงินสมทบไปลงทุนในตลาดหุ้นเป็นครั้งแรก เพื่อต้องการเพิ่มอัตราผลตอบแทนและรายได้จากเงินปันผล เบื้องต้นใช้เงินสะสมประมาณ 15% ของพอร์ตเงินสะสมฯ 2,000 กว่าล้านบาท ไปลงทุนก่อน ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์กฎกระทรวงที่กำหนดให้ กอช. ลงทุนหุ้นได้ไม่เกิน 20% จะเน้นลงทุนในกลุ่มเซ็ท 50 ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มพื้นฐานดีเป็นหลัก
  • แบงก์ชาติระบุเงินบาทหลุด 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐเป็นความผันผวนระยะสั้น เหตุบางตลาดในต่างประเทศปิดทำการและเป็นภาวะเงินดอลลาร์อ่อนเทียบกับสกุลเงินภูมิภาค อีกทั้งสกุลอื่นปรับตัวรับข่าวไปก่อนหน้าเงินบาท แนะธุรกรรมระหว่างประเทศควรบริหารความเสี่ยงค่าเงิน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BIG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 6.90 บาท Opportunity Day วานนี้ ผู้บริหารให้ข้อมูลเชิงบวกมากขึ้นจากตลาดกล้อง Mirrorless ที่ยังโตแรงต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20% Y-Y จากปีก่อนที่โตสูงถึง 70% Y-Y บริษัทเองก็ตั้งเป้าขยายสาขาเชิงรุกทั้ง Big Camera และ Big Mobile ขณะเดียวกันก็รุกตลาดงานพิมพ์มากขึ้น โดยยังมั่นใจกับประมาณการกำไรที่คาด +16% Y-Y
  • SCB (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 174 บาท แนวโน้มกำไร 1Q60 ฟื้นตัวแรง คาด +15% Y-Y และใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า
  • BBL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 210 บาท แม้ราคาหุ้นจะ outperform กลุ่มแบงก์ โดย +16% YTD เทียบ SET Bank +8% YTD แต่ยังเหลือ upside 13% มากสุดในกลุ่ม ปัจจุบันหนุนมาจากกำไร 1Q60 ที่คาดเพิ่มขึ้น 12-14% Y-Y จาก 1. ตั้งสำรองลดลง 2. มีสัดส่วนเงินกู้เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวกว่า 80% จึงได้เปรียบที่สุดในภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น 3. ปันผล 4.50 บาท/หุ้น yield 2.4% XD 20 เม.ย.
  • AMATAV (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 9.30 บาท (เดิม 5.30 บาท)...มีมุมมองดีขึ้นต่อแนวโน้มธุรกิจนิคมฯ ในเวียดนาม ด้วยยอดขายที่ดิน 125-250 ไร่ต่อปี (มีพื้นที่ขายทั้งหมด 2,249 ไร่ ซึ่ง 49% เป็นพื้นที่ที่พัฒนาแล้ว) ในช่วง 2560-2562 จาก 74 ไร่ในปีก่อน, รวมไปถึงต้นทุนการเงินที่ต่ำกว่าคาด ทำให้ปรับประมาณการกำไรปี 2560-2561 ขึ้น 13-3% จากเดิม และคาดกำไรเติบโตเด่น 27-23% ในปี 2560-2561
  • AMATA (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 20 บาท (เดิม 17.7 บาท) จากการปรับราคาเป้าหมาย AMATAV (ถือหุ้นอยู่ 73%) เป็น 9.30 บาท และกำไรสูงขึ้น และแม้ว่าจะแนะนำ “ซื้อ" แต่ด้วยกำไรที่ขยายตัวต่ำเพียง +0.9% ปีนี้ ทำให้ชอบ AMATAV มากกว่า
  • SYMC (โกลเบล็ก) เป้า IAA consensus 10.8 บาท กลุ่มบริษัทไทม์ ดอทคอม เบอร์ฮาด ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมรายใหญ่จากมาเลเซีย เสนอซื้อหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราขั้นต่ำ 35% แต่ไม่เกิน 37% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว หากสำเร็จจะทำให้บริษัทได้รับเงินเพิ่มทุนประมาณ 1 พันล้านบาท ช่วยลด D/E และเพิ่มโอกาสการเชื่อมต่อโครงข่ายให้บริการลูกค้าระหว่างประเทศ (IPLC) เข้ากับโครงข่ายระหว่างประเทศของไทม์ ดอทคอมด กระบวนการ RO ช่วงปลายปีจะทำให้มีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นราว 35% ส่วนโครงการ MCT Submarine Cable จะเริ่มทดสอบการให้บริการ Q2/60 และเริ่มรับรู้ Q3/60 บริษัทตั้งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้า Operator ในประเทศและต่างประเทศเป็นหลัก โดยจะเริ่มรับรู้ค่าเสื่อมทั้งโครงการประมาณ Q2/60

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ