เอเชีย เวลท์ คาดกรอบ SET สัปดาห์นี้ 1,575-1,590 จุด ชี้ปัจจัยตปท.ยังกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 18, 2017 10:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ คาดว่า กรอบ SET Index สัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวระหว่าง 1,575-1,590 จุด นักลงทุนจะยังคงลงทุนกันอย่างระมัดระวังตามพัฒนาการของเหตุการณ์ความขัดแย้งในต่างประเทศนับจากนี้ ด้านกลยุทธ์การลงทุน เนื่องจากขณะนี้มีความเป็นไปได้ 2 กรณีใหญ่คือ ถ้าหากสหรัฐฯ มีการตอบโต้เกาหลีเหนือทางทหารแบบรุนแรงก็จะเกิดสงครามในทันทีหุ้นนับจากนี้ก็จะไปต่อไม่ได้

แต่ บล.เอเชีย เวลท์ ประเมินว่าเนื่องจากเกาหลีเหนือมีขีดความสามารถด้านอาวุธนิวเคลียร์ในตัวเองต่างกับซีเรียที่ไม่มี สหรัฐฯ น่าจะเลือกตอบโต้เกาหลีเหนือโดยเริ่มจากมาตรการคว่ำบาตรและปิดล้อมทางเศรษฐกิจแล้วค่อยทวีเพิ่มเติมมากขึ้นก่อนที่จะไปสู่การใช้กำลังทหารในที่สุด และที่สำคัญคือจีนกลับมาแสดงความร่วมมือกับสหรัฐฯมากขึ้นแล้วในการแก้ปัญหาเกาหลีเหนือ ดังนั้น ความขัดแย้งระหว่างประเทศตรงนี้น่าจะเป็นปัจจัยในระยะสั้นถึงระยะกลาง และจะเริ่มคลี่คลาย โดยยังไม่น่ามีสงคราม

นายวรุตม์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้ต้องติดตามข่าวความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศในคาบสมุทรเกาหลีระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ ซึ่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือยังคงทดลองยิงขีปนาวุธ แม้จะไม่ประสบผลสำเร็จก็ตาม แต่ตลาดการเงินระหว่างประเทศมีความกังวลและต่างแสวงหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำแทนการลงทุนในหุ้น ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยด้วย แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานโดยรวมของเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้นมากก็ตาม ดังนั้น นักลงทุนจึงต้องระมัดระวังการลงทุนในช่วงนี้

ด้านยุโรป การเลือกตั้งในฝรั่งเศสเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม โดยล่าสุดผลสำรวจความคิดเห็นบ่งชี้ว่าผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่นำมาในลำดับต้น 4 คน คะแนนใกล้เคียงกันมาก และ 2 ใน 4 ของผู้สมัครนี้ คือ นาย Melenchon และนาง Marine Le Pen มีนโยบายที่สนับสนุนให้มีการลงประชามติเพื่อออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งทั้งสองคนยังมีคะแนนนำในรอบสองของการสำรวจความคิดเห็น ปัจจัยดังกล่าวกลับเป็นปัจจัยบวกให้กับหุ้นไทย เนื่องจากเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศยังคงจะอยู่ในเอเชีย และในไทยแม้จะยังไม่ลงทุนในหุ้นเพิ่มก็ตาม เนื่องจากยังมีความเสี่ยงในเรื่องของเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯอยู่

นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในสภาวะซึ่งยังมีความสุ่มเสี่ยงของการที่อาจจะเกิดสงครามได้แบบนี้แม้มองว่าความน่าจะเป็นยังไม่มาก จึงแนะนำลงทุนเน้นเลือกหุ้นที่มีลักษณะ defensive โดยเฉพาะที่พื้นฐานดีมีอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend yield) สูง และ/หรือหุ้นที่มีความต้านทานต่อความเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยต่างๆ ได้สูง คือ หุ้นที่มีค่าเบต้า (Beta) ต่ำ

ในสัปดาห์นี้เลือกหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เป็น Trading idea โดยให้ราคาเป้าหมาย 185.00 บาท จากพื้นฐานของหุ้นและสัญญาณทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง โดยคาดกำไรสุทธิในไตรมาส 1/60 จะทรงตัว QoQ แต่โตถึง 19.7% YoY อยู่ที่ 1.26 หมื่นล้านบาท โดยปัจจัยหนุนการเติบโตของกำไร YoY จะมาจากการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลงอย่างมากและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่ยังแข็งแกร่งในระดับสูง ถึงแม้จะคาดว่าสินเชื่อในไตรมาส 1/60 จะยังเติบโตอย่างเชื่องช้าที่ 0.9% QoQ แต่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวน่าจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นและโตอย่างน้อย 8% ทั้งปีในปีนี้ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในวงกว้างและการลงทุนของรัฐบาล

“SCB ได้รับการจัดอยู่ในลำดับโดยรวมที่สามของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของการวิเคราะห์พื้นฐานของ บล.เอเชีย เวลท์ และให้อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสูงเป็นอันดับสองจากทั้งหมด 11 ธนาคาร นอกจากนี้ธนาคารยังมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage ratio) ณ ปี 59 อยู่ที่ 134.3% สูงเป็นอันดับสองในกลุ่มธนาคารใหญ่เป็นรองเพียง BBL เท่านั้น เราคาดกำไรจะเติบโต 8.1% ในปี 60 หลังจากทรงตัวเพียง 0.9% ในปี 59 ก่อนที่จะเร่งตัวเติบโต 11.4% ในปี 61 หุ้นดังกล่าวยังให้อัตราเงินปันผลตอบแทนที่อยู่ในระดับที่น่าสนใจ 3.6%" นายวรุตม์ กล่าว

ด้าน Technical รูปแบบราคา (Price Pattern) ของ SCB มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น จากการเกิดทั้ง สัญญาณซื้อรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน มีเป้าหมาย Technical ในระยะสั้นอยู่ที่ 179 บาท ทั้งนี้ SCB มีจุด Stop Loss อยู่ที่ 153.50 บาท แนวต้าน 165.50, 166.00, และ 167.00 บาท และแนวรับ 164.50, 163.50, และ 163.00 บาท ตามลำดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ