นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากตลาดฯยังขาดปัจจัยหนุน และก็ยังต้องรอดูการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนด้วย ซึ่งถ้าออกมาดีกว่าคาดก็จะมีแรงเก็งกำไร แต่ถ้าออกมาแย่กว่าคาดก็อาจจะมีแรงขายทำกำไร
นอกจากนี้ ให้ติดตามหุ้นที่จะเข้าสู่การคำนวณดัชนี MSCI ซึ่งจะประกาศในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ตลาดฯคาดว่าหุ้น TCAP จะเข้าสู่การคำนวณ ส่วนหุ้น BEC จะถูกถอดออก
ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่แกว่งในแดนบวกเล็กน้อย ส่วนราคาน้ำมันรีบาวด์สั้นๆ พร้อมให้แนวรับ 1,562 จุด ส่วนแนวต้าน 1,576 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 พ.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,012.28 จุด เพิ่มขึ้น 5.34 จุด (+0.03%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,102.66 จุด เพิ่มขึ้น 1.90 จุด (+0.03%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,399.38 จุด เพิ่มขึ้น 0.09 จุด (+0.00%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 19.94 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 13.76 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 79.04 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 29.76 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 10.43 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.31 จุด
ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเลือกตั้งประธานาธิบดี
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 พ.ค.60) 1,568.02 จุด ลดลง 1.00 จุด (-0.06%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 578.11 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 พ.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 พ.ค.60) ปิดที่ 46.43 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 พ.ค.60) ที่ 5.78 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.63 แนวโน้มอ่อนค่า ขานรับเฟดส่งสัญญาณขึ้นดบ. มองกรอบวันนี้ 34.60-34.75
- คมนาคมเสนอ ครม.วันนี้อนุมัติลงนามโครงการ รถไฟฟ้าชมพู-เหลือง มูลค่า 1 แสนล้าน ด้าน"บีทีเอสซี"ระบุพร้อมก่อสร้างทันที เมื่อเข้าพื้นที่ได้ พร้อมแจงสาเหตุภาครัฐจ่ายเงินอุดหนุนค่าก่อสร้างทั้ง 2 โครงการ
- พาณิชย์สั่งปรับมาตรการดูแลราคาสินค้าใหม่ทั้งระบบ หลังเจอผู้ผลิตใช้แท็กติกลดไซส์แล้วปรับขึ้นราคาสินค้าทางอ้อม จนกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน ด้าน "สนธิรัตน์" นัดผู้ผลิตรายใหญ่ 5-6 ราย พร้อมห้าง หารือรายละเอียดและมาตรการดูแลวันนี้
- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง หารือนายทาเคฮิโกะ นากาโอะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เพื่อขอรับการสนับสนุนเงินกู้จากเอดีบี 300-500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.05-1.75 หมื่นล้านบาท สำหรับใช้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม
- ธปท.เตรียมหารือกับกระทรวงการคลังในการออกแนวปฏิบัติ (ไกด์ไลน์) รวมถึงคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมทดลองเทคโนโลยีปล่อยกู้ระหว่างระหว่างบุคคล (พีทูพี เลนดิ้ง) ในเร็วๆ นี้
- กพท.มั่นใจปลดธงแดง ICAO มิ.ย.นี้ตามกำหนด หลังแก้ปัญหาความปลอดภัยคืบหน้า ฟุ้งการบินไทยได้รับ AOC สร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการ ด้าน กบร.ยกเว้นค่าธรรมเนียม 5 สนามบิน
*หุ้นเด่นวันนี้
- TAPAC-W3 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.ทาพาโก้ (TAPAC)) เทรดวันนี้วันแรก จำนวน 128,040,104 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 6.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 4 เม.ย. 2560) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 31 ก.ค. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 3 เม.ย. 2562
- MAX-W3 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น (MAX)) เทรดวันนี้วันแรก จำนวน 2,503,588,552 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.05 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 20 เม.ย. 2560) และวันครบกำหนดอายุตรงกับวันที่ 19 ต.ค. 2560 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 19 ต.ค. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 19 ต.ค. 2560
- KCE (ธนชาต)"ซื้อ" เป้า 132 บาท แม้กำไร Q1/60 ไม่น่าตื่นเต้น เนื่องจากราคา copper foil ที่เพิ่มขึ้น และค่าเงินบาทแข็งค่า แต่คาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี โดยค่าเงินบาทจะค่อย ๆ อ่อนค่าก่อนการขึ้นดอกเบี้ย Fed เดือน มิ.ย. และราคา Copper foil ที่ค่อยๆ ปรับลดลง และกำลังการผลิตเพิ่ม 500k ตารางฟุต/ปี ปีนี้ หนุนกำไรเติบโต 18-30% ในปี 60-61
- BCP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 38 บาท กำไรดีกว่าคาดมาก แม้ตัดรายการพิเศษ 208 ล้านบาท กำไรปกติก็มากกว่าคาด +53% Q-Q และพลิกจากขาดทุนใน Q1/59 จากค่าการกลั่นที่สูงกว่าคาดมากเพราะส่วนต่างราคาน้ำมันดิบ Brent-Dubai แคบลง และธุรกิจการตลาดมีค่าการตลาดและปริมาณขายดีกว่าคาด จึงมีแนวโน้มปรับกำไรขึ้นหลังประชุมวันนี้
- XO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ทยอยซื้อ"เป้า 6.50 บาท แนวโน้มกำไรเริ่มกลับมาฟื้นตั้งแต่ Q1/60 หลังโรงงานใหม่ใช้อัตรากำลังการผลิตสูงขึ้นเป็น 50% ซึ่งเป็นระดับคุ้มทุน จึงคาดกำไร Q1/60 ฟื้นแรง +367% Q-Q แต่ลด 60% Y-Y เพราะยังมีค่าใช้จ่ายบางอย่างของโรงงานใหม่และเก่าทับซ้อนกันอยู่ การฟื้นตัวจะค่อย ๆ ดีขึ้นเป็นลำดับและอัตรากำไรขั้นต้นจะกลับสู่ระดับปกติในปีหน้า เราคาดกำไรปีนี้ +35% Y-Y ปีหน้า +22% Y-Y
- IRPC (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 5.85 บาท กำไร Q1/60 อยู่ที่ 2,365 ล้านบาท -22%YoY เติบโต 40%QoQ แม้จะมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น 34 วัน แต่ได้รับแรงหนุนจากกำไรสต๊อกน้ำมัน กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และการกลับรายการด้อยค่ารวม 2 พันล้านบาท คาดกำไรปกติผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ต่อจากนี้โรงกลั่นจะใช้กำลังการผลิตราว 90-95% สู่ระดับ 200 KBD เป็นปัจจัยหลักหนุนกำไรปกติ นอกจากนี้ Q3/60 คาดโรงงาน Propylene 2 กำลังการผลิต 3.2 แสนตันต่อปีจะเริ่ม COD เป็นปัจจัยหนุนปีนี้เพิ่มเติม