SAMART ส่ง SAMTEL ประมูลงานใหญ่,SIM ลุ้นเซ็น 2 งานกสท.เชื่อรับผลดีศก.ฟื้นคึกคักใน H2/60

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 11, 2017 15:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) เปิดเผยว่า สำหรับในไตรมาสต่อไปหลังจากผ่านพ้นไตรมาสแรกปีนี้แล้ว คาดว่าสายธุรกิจ ICT Solution ซึ่งมีบมจ.สามารถเทลคอม (SAMTEL) เป็นแกนนำนั้น มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการเปิดประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐตามงบประมาณในโครงการต่าง ๆ รวมถึงการลงทุนและการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร เพื่อให้เกิดการบริการรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ ขึ้นในสังคม จากนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล และ Thailand 4.0 ซึ่งจะเห็นตั้งแต่ไตรมาส 2 ไปจนถึงช่วงครึ่งปีหลัง

โดยคาดว่าไตรมาส 2 จะยื่นประมูลอีกหลายโครงการใหญ่มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดการณ์ไว้ว่าปี 60 จะมีงานในมือรวมกว่า 10,000 ล้านบาท และจะเป็นสัดส่วนของงานบริการที่จะสร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอเพิ่มสูงขึ้นด้วย

สายธุรกิจ Mobile-Multimedia ปัจจุบัน บมจ.สามารถ ไอ-โมาย (SIM) อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ จากที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจขายเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่มาเป็นรายได้ที่สม่ำเสมอและมั่นคงมากขึ้น โดยล่าสุดรอความชัดเจนใน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการงานวิทยุโทรคมนาคมระบบทรั้งค์ และ โครงการโคทาวเวอร์ ของบมจ.กสท. โทรคมนาคม (กสท.) คาดจะเซ็นสัญญาในครึ่งปีแรก

ส่วนธุรกิจด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ครบวงจร ก็ยังคงเป็นตัวแทนจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ ล่าสุดได้นำแบรนด์ “Xiaomi" มาจำหน่าย และได้รับการตอบรับอย่างดี และยังมีแผนในการเป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ เพิ่มขึ้น

สายธุรกิจ Utilities & Transportation ล่าสุด เริ่มไตรมาส 2 บริษัท เทด้า จำกัด (TEDA) ได้โครงการก่อสร้างงานด้านโยธาจัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟฟ้าใต้ดินสำหรับการเปลี่ยนระบบไฟฟ้าอากาศเป็นระบบสายไฟฟ้าใต้ดินของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) โครงการพระราม 3 มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท

"สำหรับไตรมาสต่อไป ภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศจะกลับมาคึกคักมากขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการขับเคลื่อนของภาคเอกชน ที่เอื้อให้เกิดโอกาสทางธุรกิจอย่างมหาศาลแก่กลุ่มสามารถ จึงมั่นใจว่าผลประกอบการของทุกธุรกิจในกลุ่มสามารถจะมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง"นายวัฒน์ชัย กล่าว

นายวัฒน์ชัย กล่าวอีกว่า กลุ่มบริษัทเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การเมือง ที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ โดยจุดมุ่งเน้นของบริษัทคงอยู่ที่การเพิ่มแหล่งรายได้ประจำและสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน

สำหรับในช่วงไตรมาส 1/60 บริษัทมีรายได้รวม 2,971 ล้านบาท ลดลง 28% จากงวดปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 35 ล้านบาท ลดลง 69% จากงวดปีก่อน โดย กลุ่ม ICT Solution มีรายได้รวม 1,405 ล้านบาท กำไรสุทธิ 81 ล้านบาท โดยมีงานเซ็นใหม่จำนวนเกือบ 1,800 ล้านบาท อาทิ งานติดตั้งเครือข่ายโทรคมนาคมทหาร มูลค่า 941 ล้านบาท โครงการจัดทำฐานข้อมูลแผนที่และคำนวณราคาประเมินที่ดินให้แก่กรมธนารักษ์ มูลค่า 249 ล้านบาท ฯลฯ สายธุรกิจ Mobile-Multimedia มีรายได้ 421 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างการปรับแผนธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ประจำมากขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมนำบริษัทลูก คือ i-sport เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขยายธุรกิจด้านกีฬา และมุ่งสู่การเป็น “บริษัทที่ทำธุรกิจด้านกีฬาครบวงจร" หรือ Sport & Entertainment ของไทย

สายธุรกิจ Related Business มีรายได้ 391 ล้านบาท เฉพาะบมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ (OTO) รายได้รวม 242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากงวดปีก่อน และมีกำไรสุทธิรวม 26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากงวดปีก่อน โดยมีลูกค้ารายใหม่ทั้งในกลุ่มราชการและรัฐวิสาหกิจ รวมถึงได้รับการว่าจ้างต่อสัญญาเดิมอีกหลายฉบับ รวมมูลค่า 223 ล้านบาท ส่งผลให้มีงานในมือกว่า 930 ล้านบาท และสายธุรกิจ Utilities & Transportation มีรายได้รวม 856 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ