ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,550.27 จุด ลดลง 10.04 จุด (-0.64%) มูลค่าการซื้อขาย 54,342.21 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,564.31 จุด ขณะที่ดัชนีทำระดับต่ำสุดของวันที่ 1,546.81 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 292 หลักทรัพย์ ลดลง 994 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 240 หลักทรัพย์
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง จากแรงขายที่เข้ามาในหุ้นขนาดกลาง และเล็ก โดยเฉพาะหุ้นที่ประกาศผลประกอบการออกมาไม่ดี และยังมีมุมมองในอนาคตที่ไม่ดีด้วย แต่ก็มีหุ้นบางส่วนที่ประกาศผลประกอบการออกมาดี และมีมุมมองที่ดีในอนาคต อย่าง SAWAD และ MTLS เป็นต้น ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นการสะท้อนความอ่อนแอของตลาดฯ
ก่อนหน้านี้ก็ได้เคยพูดไว้แล้วว่า ตลาดฯยังขาดเม็ดเงินลงทุนใหม่ ทำให้ดัชนีฯยังไปไหนไม่ได้ โดยเฉพาะหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจของประเทศก็มีโอกาสที่จะปรับตัวลงด้วย โดยมองเดือนนี้ดัชนีฯมีโอกาสที่จะลงทดสอบแนว 1,530 จุด
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกกัน โดยให้ติดตามประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากประธานเฟดแต่ละสาขาที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ส่วนบ้านเราก็ให้ติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/60 ของไทยที่จะประกาศในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์ฯ บล.กสิกรไทย คาดว่าจะเติบโต 3.1%
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (12 พ.ค.) นายประกิต กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะปรับตัวลง พร้อมให้แนวรับ 1,540-1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,555 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,916.02 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,236.49 ล้านบาท ปิดที่ 17.90 บาท ลดลง 0.60 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,052.31 ล้านบาท ปิดที่ 41.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,931.89 ล้านบาท ปิดที่ 180.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,914.62 ล้านบาท ปิดที่ 512.00 บาท ลดลง 8.00 บาท