ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,557.73 จุด เพิ่มขึ้น 8.09 จุด (+0.52%) มูลค่าการซื้อขาย 38,489.70 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,560.11 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,553.64 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 571 หลักทรัพย์ ลดลง 568 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 406 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้แข็งแกร่งสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่อยู่ในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เปิดเทรดบ่ายนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมาจากความคาดหวังการประชุมกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC สัปดาห์นี้ เห็นได้จากราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นมาทำ New high ในรอบ 5 สัปดาห์
นอกจากนี้ ยังคาดหวัง Fund Flow ที่จะไหลเข้ามา หลังจากที่มีเหตุการณ์ทางการเมืองในสหรัฐฯ และบราซิล ซึ่งคาดหวังว่า Fund Flow จะไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่อื่นที่ไม่ใช่บราซิล
สำหรับกรณีปัญหาของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐนั้น นายทรัมป์ได้ออกมายืนยันว่าไม่ได้มีการสมรู้ร่วมคิดกับทางรัสเซีย พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด แต่คงจะเป็นเรื่องที่จะต้องรอดูต่อไป แต่ในแง่ของคะแนนความเชื่อมั่นใน"ทรัมป์"ได้ลดลงแล้ว และอาจทำให้การผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีความล่าช้า
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ค.) นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯอาจจะนิ่ง ๆ ในลักษณะพักตัวหลังจากที่วันนี้ได้ปรับตัวขึ้นไปแล้ว หรืออาจจะปรับตัวขึ้นได้ก็เล็กน้อย พร้อมให้แนวรับ 1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,760.88 ล้านบาท ปิดที่ 25.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,744.10 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,474.84 ล้านบาท ปิดที่ 19.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,411.89 ล้านบาท ปิดที่ 393.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,396.78 ล้านบาท ปิดที่ 18.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท