ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,566.15 จุด เพิ่มขึ้น 1.46 จุด (+0.09%) มูลค่าการซื้อขาย 39,943.89 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,567.92 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,563.49 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 527 หลักทรัพย์ ลดลง 553 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 446 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เงียบ ๆ คล้ายกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย ซึ่งการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในบ้านเราก็จบไปแล้ว ตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ออกมาก็ดี โดยเฉพาะตัวเลขการส่งออกที่ออกมาดี
เพียงแต่ภาพจากต่างประเทศยังคลุมเครือ โดยวันนี้ให้จับตาการเปิดรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 2-3 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยดูว่า FOMC จะมีมุมมองอย่างไรกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ, การปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด และที่พูดกันมากคือเรื่องของงบดุล ว่าจะมีการจัดการอย่างไร โดยเฟดจะปรับลดงบดุลเร็วและแรงแค่ไหน เนื่องจากการปรับลดงบดุล ทำให้มีผลในแง่ของการปรับฐานซึ่งจะเห็นผลในระยะยาว โดยมีผลต่อการลงทุนต่อสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วโลก แต่ไทยก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไร เพียงแต่นักลงทุนคงจะ Wait & See เพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน
นอกจากนี้ การที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสมู ปรับลดเครดิตความน่าเชื่อถือของจีนลง แสดงให้เห็นถึงฐานะการเงินที่ด้อยลง ปัจจัยดังกล่าวนี้ทำให้เป็นจังหวะที่นักลงทุนจะ Wait & See พร้อมกันนี้ให้ติดตามการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอกโอเปก ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.) ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันไปจนถึงไตรมาส 1 ปีหน้า
ส่วนเหตุการณ์ระเบิดในบ้านเราเป็นปัจจัยลบแต่ก็ไม่ได้มีผลต่อตลาดฯ ทั้งนี้ ช่วงหลังมานี้ไทยไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจมากนัก ทำให้ขาดปัจจัยกระตุ้นการลงทุน
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ค.) นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯคงจะเป็นลักษณะ Wait & See โดยตลาดฯดูจะจำกัดการขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 2,135.47 ล้านบาท ปิดที่ 43.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
GGC มูลค่าการซื้อขาย 1,588.39 ล้านบาท ปิดที่ 14.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,568.62 ล้านบาท ปิดที่ 395.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,441.12 ล้านบาท ปิดที่ 178.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,019.75 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง