(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้พักฐานเล็งราคาน้ำมันร่วงกดดันหลังผิดหวังโอเปกไม่ลดกำลังผลิตมากขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 26, 2017 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะพักฐาน หลังน่าจะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ภายหลังจากที่ผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอกโอเปก ออกมามีการขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน แต่นักลงทุนผิดหวังที่ไม่มีการลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก

นอกจากนี้ การที่หุ้นไทยปรับขึ้นมา 5 วันติดต่อกันแล้ว ขณะที่วอลุ่มเทรดโดยรวมแผ่วลง ทำให้เห็นว่านักลงทุนอยู่ในโหมดของการระมัดระวังการลงทุน ที่อาจจะมีการพักฐานได้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ราว 0.1-0.2% โดยให้ติดตามนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณจะมีอะไรเพิ่มหรือไม่ และส่วนในประเทศให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะแถลงออกมาในช่วงสิ้นเดือนนี้ด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,565-1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 พ.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,082.95 จุด เพิ่มขึ้น 70.53 จุด (+0.34%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,205.26 จุด เพิ่มขึ้น 42.23 จุด (+0.69%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,415.07 จุด เพิ่มขึ้น 10.68 จุด (+0.44%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 14.64 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.54 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 40.20 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 18.31 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.46 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.99 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.06 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 1.62 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 พ.ค.60) 1,569.41 จุด เพิ่มขึ้น 3.26 จุด (+0.21%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 312.57 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 พ.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 พ.ค.60) ปิดที่ 48.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.46 ดอลลาร์ หรือ 4.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 พ.ค.60) ที่ 6.26 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.06 แข็งค่าต่อเนื่องในรอบ 22 เดือนจากแรงขายดอลล์-เงินไหลเข้าตลาดพันธบัตร
  • กระทรวงคมนาคมเตรียมนำโครงการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง วงเงินรวม 2.52 แสนล้านบาท เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดือนมิ.ย.นี้ ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 1.21 แสนล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กม. วงเงิน 1.31 แสนล้านบาท
  • เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กล่าวในงานสัมมนา "เปลี่ยน...ให้ทันโลก" หัวข้อโรดแมป อีอีซี คลื่นลูกใหม่ลงทุนไทย ว่า หากการขยายตัวเศรษฐกิจหรือจีดีพีของไทยยังโตเฉลี่ย 3% เหมือนช่วงปี 2549-2557 ที่โตเฉลี่ยปีละ 3.1% เพราะปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ จะทำให้มูลค่าจีดีพีไทยตกจากอันดับที่ 20 ลงไปอยู่ที่อันดับ 25 โดนเวียดนามและอินโดนีเซียที่โตเฉลี่ยปีละ 5% แซงหน้าแน่
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานภาพรวมสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์เดือนเม.ย.2560 เพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้า และ 2.13% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ถือเป็นระดับสูงสุดในปีนี้ ผลจากการเร่งตัวขึ้นของสิสินเชื่อที่อยู่อาศัย และการเติบโตต่อเนื่องของสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจในประเทศ และธุรกิจระหว่างประเทศซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้นของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในระยะข้างหน้าส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอีโดยเฉพาะขนาดเล็กยังชะลอตัวต่อเนื่อง
  • สนข.เดินหน้าศึกษาระบบโลจิสติกส์ เตรียมแผนพัฒนากว่า 100 โครงการ วงเงินรวมกว่า 6 แสนล้านบาท รองรับอุตสาหกรรม 4.0 ซูเปอร์คลัสเตอร์ ในพื้นที่อีอีซี

*หุ้นเด่นวันนี้

  • MTLS (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 38 บาท เร่งขยายสาขา 2 เท่าเป็น 4,000 สาขาภายในปี 63 หนุนการขยายตัวสินเชื่อเฉลี่ย 45% ต่อปีช่วง 60-63 รวมไปถึงแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นที่มาช้ากว่าคาด ทำให้ปรับกำไรขึ้น 2.6% ปีนี้ และ 5% ในปี 61-62 เป็น High growth plays ด้วยการเติบโตกำไร 64-60% ในปี 60-61 ขณะที่ NPL Ratio ต่ำเพียง 1.1%
  • WORK (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 62 บาท รายได้ปีนี้มีแนวโน้มดีกว่าคาดไว้เดิม จาก rating ที่ดีขึ้นหนุนปรับขึ้นค่าโฆษณาเฉลี่ย Q2/60 เป็น 75,000 บาท/นาที +21% q-q และ Utilization rate เพิ่มเป็น 77% และปรับประมาณการค่าโฆษณาทั้งปีเป็น 67,000 บาท/นาที +8% จากคาดการณ์เดิม
  • SVI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 6.80 บาท มองบวกมากขึ้นต่อการเติบโตในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้า กำไรจะฟื้นตัวตั้งแต่ Q2/60 และสดใสเต็มที่ปี 61 หลังขจัดปัญหาสายการผลิตแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าใหม่ที่เซ็นสัญญาแล้ว ซึ่งจะเริ่มเข้ามาตั้งแต่ Q4/60 โดยคงประมาณการกำไรปีนี้ +48.5% Y-Y แต่ปรับปีหน้าขึ้น 7% เป็น +24.6% Y-Y ปรับ PE เพิ่มเป็น 17 เท่า เพราะการเติบโตของกำไรในช่วง 3 ปีนี้สูงกว่าเดิม
  • HANA (ฟินันเซีย ไซรัส) แนวโน้มกำไรปกติ Q2/60 น่าจะสดใสต่อเนื่องเพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลของการส่งออก บวกกับการปรับ Product Mix ลดสินค้ากลุ่ม Computer (มาร์จิ้นต่ำ และอุตสาหกรรมชะลอ) และเพิ่มกลุ่มอื่นทั้ง Telecom Automotive Medical และ RFID มาทดแทน โดยอยู่ระหว่างปรับเพิ่มกำไรปกติปี 60 ขึ้นราว 10-15% จากปัจจุบันคาดไว้โต +17% Y-Y ภายหลังประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 30 พ.ค.นี้ ราคาพื้นฐานอาจปรับจากปัจจุบันที่ 46 บาท เป็นประมาณ 55-60 บาท ชอบ HANA มากสุดในกลุ่ม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ