นายสิทธิพร รัตนาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ (JSP) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ไตรมาส 2/60 จะอยู่ที่ 1,100-1,200 ล้านบาท มากกว่าไตรมาส 1/60 ที่มีรายได้ 1,043 ล้านบาท โดยปัจจุบันยังถือว่ากำลังซื้อในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทยังปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบริษัทได้ให้เจ้าหน้าที่จากธนาคารต่างๆ เข้ามาประจำโครงการเพื่อประเมินลูกค้าส่งผลให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อในช่วงต้นปีปรับลดลงไปอยู่ในระดับ 15% จากปีก่อนที่ 30%
สำหรับภาพรวมผลประกอบการทั้งปี บริษัทยังคงมั่นใจว่ายอดขายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 5,900 ล้านบาท จาก 5 เดือนแรกของปีนี้มียอดขายแล้ว 2,300-2,500 ล้านบาท และมีรายได้ 5,000 ล้านบาท หรือเติบโตไม่น้อยกว่า 20% โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถโอนกรรมสิทธิและรับรู้รายได้ 3,000 ล้านบาท
"ปีนี้เราค่อนข้างมั่นใจว่าผลประกอบการจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ด้วยสถานการณ์ความไม่แน่นอนต่างๆทั่วโลกเราจึงต้องติดตามความเป็นไปได้แบบวันต่อวัน ซึ่งสิ่งที่เป็นห่วงที่สุดคือเรื่องยอดปฎิเสธสินเชื่อ แต่เราได้ทำการ Pre booking เพื่อที่จะลดยอดปฎิเสธสินเชื่อลง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็ถือว่าแก้ปัญหาได้พอสมควร นอกจากนี้เองเราก็ยังมีการบริหารจัดการต้นทุนมากขึ้นด้วย ก็เชื่อว่าผลขาดทุนจากอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าจะลดลง หรืออาจจะมีกำไรได้ในไม่ช้า"นายสิทธิพร กล่าว
บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งแนวราบและแนวสูงในปีนี้ มูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท อาทิ โครงการ เจ แกรนด์ สาทร-กัลปพฤกษ์, เจ ซิตี้ รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง, เจ วิลล่า วงแหวนบางใหญ่, เจ ซิตี้ อัสสัมชัญ-ศรีราชา เจ คอนโด บางเสร่ และโครงการย่านพระราม 4
จากแผนการขยายธุรกิจดังกล่าวบริษัทจะทำการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 1,200 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นเงินลงทุน โดยเป็นหุ้นกู้ อายุ 1 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6% จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ เปิดจองซื้อวันที่ 15-16 และ 19-20 มิ.ย.60 มี บล.เอเซีย พลัส, บล.เออีซี และ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
“วัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ นอกเหนือจากระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจ ก่อสร้าง-พัฒนาโครงการใหม่ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน" นายสิทธิพร กล่าว
นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส JSP เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของบริษัทปัจจุบันมี backlog ในมือกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ประมาณ 3,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในข่วงต้นปี 61 ขณะเดียวกันบริษัทได้ทยอยเปิดโครงการแนวราบกลุ่มราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท โดยเน้นพัฒนาโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลเป็นหลัก ซึ่งสามารถพรีเซลและโอนกรรมสิทธิ์ได้ค่อนข้างเร็ว
บริษัทคาดว่าภายในปีนี้จะมียอดโอนอยู่ที่ 5,067 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดโอน 3,050 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ เช่น ทาวน์เฮ้าส์, บ้านแฝด มูลค่า 3,142 ล้านบาท หรือคิดเป็น 62% คอนโดมิเนียม 940 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19% และ อาคารพาณิชย์ มูลค่า 985 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19% ขณะที่เป้าหมายรายปีนี้อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท หรือเติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน