(เพิ่มเติม) ครม.เห็นชอบหลักการเปิดทางรสก.-นิติบุคคลที่รัฐหรือรสก.ถือหุ้นเข้าร่วมทุน"เหมืองโปแตช"

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 6, 2017 15:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้มีมติเห็นชอบในหลักการตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเพื่อเพิ่มทางเลือกในการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนของ บมจ.อาเซียนโปแตซขัยภูมิ ที่มีแผนเพิ่มทุนในระยะที่ 2 ที่จะต้องระดมทุนจากผู้ถือหุ้นอีกประมาณ 18,063 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของรัฐบาลไทยจะต้องซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนหุ้นในอัตรา 20% ตาม Basic Agreement รวมทั้งสิ้น 3,612.73 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มระดมทุนงวดแรกในช่วงไตรมาส 3/60

ดังนั้น เพื่อเป็นการลดภาระของรัฐบาล จึงเห็นชอบในหลักการในการกำหนดให้ผู้ถือหุ้นในสัดส่วนของรัฐบาลไทยตาม Basic Agreement หมายความรวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของไทย และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน นิติบุคคล ที่ส่วนราชการและ/หรือรัฐวิสาหกิจถือหุ้นในสัดส่วนที่มีอำนาจในการควบคุมจัดการ

พร้อมทั้ง มอบหมายให้กระทรวงการคลังรับไปดำเนินการสอบถามความเห็นของรัฐบาลประเทศสมาชิกในบริษัทดังกล่าวเพื่อหาข้อยุติว่าการบริหารจัดการเพื่อรักษาสัดส่วนผู้ถือหุ้นของไทยสามารถดำเนินการได้โดยไม่ขัดหลักเกณฑ์ Basic Agreement หรือไม่ หากทำได้ก็ให้ดำเนินการไปตามที่เสนอมา แต่ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการได้ ก็ให้กระทรวงการคลังพิจารณาหาแนวทางในรูปแบบอื่นเพื่อรองรับด้วย

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบในหลักการให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนของรัฐบาลไทยในโครงการอาเซียนโปแตซ สัดส่วนหุ้น 60% ที่ถือโดยรัฐบาลนั้น กระทรวงการคลังเห็นว่าในช่วงที่จะมีการเพิ่มทุนรอบสองจะได้ไม่เป็นภาระรัฐบาล จึงมีการเสนอให้แก้ไขนิยามคำว่ารัฐบาลไทยให้หมายความรวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของไทย บริษัทหรือห้างหุ้นว่วนนิติบุคคลที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจถือหุ้นในสัดส่วนที่มีอำนาจการควบคุมจัดการหรือถือหุ้นอยู่ 48% เข้ามาถือหุ้นแทนได้

"ที่ประชุม ครม.จึงเห็นชอบในหลักการ แล้วให้นำประเด็นดังกล่าวไปหารือกับประเทศสมาชิก" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีดังกล่าว รมต.ต่างประเทศ ชี้แจงว่า ประเด็นดังกล่าวประเทศสมาชิกยังไม่เคยมีการพิจารณาในเรื่องนี้มาก่อน ดังนั้น จะนำไปหารือกับประเทศสมาชิกอีกครั้ง

อนึ่ง ในปี พ.ศ.2534 ประเทศสมาชิกอาเซียน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และ บรูไน ได้ลงนามในข้อตกลงพื้นฐานว่าด้วยโครงการอุตสาหกรรมอาเซียน (Basic Agreement on ASEAN Industrial Projects) เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์พื้นฐานในการดำเนินโครงการในแต่ละประเทศ และกำหนดให้ประเทศเจ้าของโครงการต้องถือลงทุน 60% ของยอดเงินลงทุนทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลประเทศเจ้าของโครงการจะต้องร่วมลงทุนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือ 20% ของยอดเงินลงทุน ส่วนที่เหลืออีก 40% ประเทศสมาชิกอาเซียนจะเป็นผู้ร่วมทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ