(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่ง Sideway up เล็งขานรับปัจจัยใน-นอกประเทศเกื้อหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 19, 2017 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up เนื่องจากปัจจัยใน-ต่างประเทศดี โดยนอกประเทศมาจากเรื่องการเลือกตั้งของฝรั่งเศสรอบ 2 ที่ออกมามีแนวโน้มว่าพรรคอองมาร์ช ของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครอง จะได้เสียงข้างมากในสภาฯ และราคาน้ำมันก็รีบาวด์ขึ้นด้วย

ส่วนในประเทศก็มาจากการรอคอยการใช้ม.44 สำหรับพื้นที่ส.ป.ก. หลังจากมีความชัดเจนกับการใช้ม.44 ในโครงการรถไฟไทย-จีนแล้ว นอกจากนี้ จะมีงาน Thailand's Big Strategic Move ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ โดยจะมีการเชิญนักลงทุนรายสถาบันทั้งใน-ต่างประเทศ ซึ่งน่าจะเรียกความเชื่อมั่นได้ ซึ่งในงานจะมีเรื่อง Thailand 4.0, โครงสร้างพื้นฐาน และเรื่องโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) อีกทั้งนักลทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาทั้งในตลาดหุ้นไทย และมีการทำ long ใน Set50 Index

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก 0.3-0.5% พร้อมให้แนวรับ 1,572 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 ถัดไปก็ 1,585-1,590 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 มิ.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,384.28 จุด เพิ่มขึ้น 24.38 จุด (+0.11%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,151.76 จุด ลดลง 13.74 จุด (-0.22%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,433.15 จุด เพิ่มขึ้น 0.69 จุด (+0.03%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 31.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.01 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 109.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 5.49 จุด,ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.19 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.64 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.82 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 มิ.ย.60) 1,576.58 จุด เพิ่มขึ้น 3.05 จุด (+0.19%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 998.31 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 มิ.ย.60) ปิดที่ 44.74 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.63%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 มิ.ย.60) ที่ 6.40 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.94 จับตาถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่เฟดเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย
  • ผู้รับเหมา ร้องทีโออาร์ รถไฟทางคู่ ล็อกเงื่อนไขงานก่อสร้าง "อุโมงค์-ราง" ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อ สั่งเร่งพิจารณา ด้านรักษาการผู้ว่าการรฟท. เสนอบอร์ดรฟท.วันนี้ (19 มิ.ย.) เผยเทคนิคอุโมงค์หินกับดินอ่อน ไม่เหมือนกัน ขณะที่ยันโรงงานผลิตราง เปิดกว้างแล้ววัดที่คุณภาพตัวรางตามมาตรฐาน
  • รัฐบาลจัดงานใหญ่เพื่อการนำเสนอข้อมูลต่อชาวโลกอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างวันที่ 22-23 มิ.ย.นี้ ตลท.จัดงาน "Thailand's Big Strategic Move" และในเดือนก.ค.นี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะจัดงานสตาร์ทอัพ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเห็นพัฒนาการของประเทศไทย
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2560 ได้อนุมัติกรอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 เพื่อให้ส่วนราชการรับไปดำเนินการ ซึ่งครั้งนี้จะเชื่อมโยงลงไปยังแผนของภาคกลุ่ม จังหวัดและจังหวัด เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณตรงกับความต้องการของพื้นที่มากที่สุด โดยมอบให้ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณไปหารือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อให้จัดทำแผนงานที่สอดคล้องกับส่วนราชการ เกิดการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ
  • กรณีสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์คัดค้านคำสั่งหัวหน้า คสช. มาตรา 44 โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ในประเด็นวิศวกรและสถาปนิกของจีนได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.วิศวกร 2542 และ พ.ร.บ.สถาปนิก 2543 นั้น เป็นการยกเว้นเฉพาะเรื่องการขอรับใบอนุญาต ไม่ได้เกี่ยวกับสิทธิในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในภายหลัง และในกรณีที่เกิดความเสียหายสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่สัญญาให้รับผิดชอบทางแพ่งได้ ซึ่งได้กำหนดไว้ในสัญญาแล้ว
  • นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์และพันธมิตร เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายกลาง-รายย่อย ประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ และต้องออกจากตลาดไป ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ประกอบการมีธุรกิจหลักที่ทำอยู่แล้ว เมื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่ดี ก็ชะลอการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หันไปดูแลธุรกิจหลัก ทำให้ในปัจจุบันผู้ประกอบการรายใหญ่มีสัดส่วนตลาดมากกว่า 70%
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC SCB)คาดการณ์ภายหลังเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมาแล้วนั้น เฟดมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ตาม Dot Plot และอาจเริ่มต้นลดงบดุลในไตรมาสสุดท้ายของปี โดยเฟดส่งสัญญาณความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะเริ่มลดงบดุลในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CK (ไอร่า) เป้า 39 บาท อยู่ระหว่างรอลงนามสัญญางาน “Supply and Installation of M&E System" เส้นทางต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน มูลค่าประมาณ 19,643 ล้านบาท หลัง YTD ได้รับงานใหม่ เข้ามามูลค่ารวม 28,494 ล้านบาท ล่าสุดมี Backlog จำนวน 76,160 ล้านบาท หลังลงนามโครงการข้างต้น คาดทำให้ Backlog เพิ่มขึ้นสูงเกือบ 100,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่งเพียงพอต่อการรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 2 ปีข้างหน้า ขณะที่ CK มีเป้าหมายงานเพิ่มไม่ต่ำกว่า 20% ของโครงการที่เข้าร่วมประมูล ด้านผลการดำเนินงานคาดเข้าสู่ปกติ จากความสามารถในการทำกำไรจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดควบคุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และรายได้เงินปันผลจากบริษัทที่ร่วมลงทุนมีความสม่ำเสมอมากขึ้น
  • SYNTEC (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 6.27 บาท ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 60 ขึ้น 33% สู่ระดับ 1 พันล้านบาทเติบโต 15%YoY เนื่องจากบริษัทสามารถบริหารต้นทุนได้ดีส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น 1Q60 เพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 20% (อัตรากำไรขั้นต้นปี 59 อยู่ที่ 17%) และคาดว่าจะทรงตัวได้ทั้งปี นอกจากนี้ เตรียมขยายฐานรายได้ Recurring income โดยกำลังเจรจาเพื่อลงทุนในรีสอร์ท 1 แห่งมูลค่าราว 700-2,000 ล้านบาท จากในปัจจุบันที่มีเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ 3 แห่งมีห้องพักรวม 434 ห้อง และเป็นเจ้าของ 1 โครงการมิกซ์ยูส The 8 Thonglor (ถือหุ้น 60%) มีพื้นที่ค้าปลีก 6 พันตร.ม.
  • CPALL (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 68 บาท ด้วยแรงหนุนหลักจากแผนขยายสาขาทั้งจากร้าน 7-11 ปีละ 700 สาขา และจาก MAKRO (บ.ย่อยถือหุ้น 97.88%) ปีละ 7-8 สาขา บวกกับ ยอดขายสาขาเดิมที่คาดยังโตได้ 2%YoY ตามแผนเพิ่มสินค้าและบริการใหม่ๆ จึงคาดหนุนให้ปี 60 กำไรโต 13.8%YoY ปัจจุบันมี Upside 10% และคาดให้ Div. yield ปีนี้ 1.8%
  • MM (เออีซี) "ซื้อ" เป้า Consensus 6.50 บาท ปี 60 คาดพลิกกลับมากำไร 53 ล้านบาท จากสิ้นปี 59 ที่มีผลขาดทุน 168 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากปีนี้ที่มีแผนขยายสาขาอีก 28 สาขา จากสิ้นปี 59 ที่มีอยู่ 456 สาขา เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 28.7%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ