SELIC คาดเสนอแผนธุรกิจ 5 ปี (61-65) เข้าบอร์ด H2/60 เน้น R&D-เล็งตั้งรง.ในต่างประเทศ, คงเป้ารายได้ปีนี้โต 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 20, 2017 15:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีลิค คอร์พ (SELIC) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างจัดทำแผนการดำเนินงาน 5 ปี (61-65) คาดจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในครึ่งปีหลังนี้ โดยการดำเนินธุรกิจต่อจากนี้จะมุ่งเน้นการทำวิจัยและพัฒนา (R&D) มากขึ้น เพื่อเพิ่มมาร์จิ้นให้กับผลิตภัณฑ์เดิม และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มี High margin นอกเหนือไปจากกาวติดกล่องกระดาษวางงบลงทุนด้าน R&D ไว้ที่ 2-5% ของยอดขายรวม

นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อจัดตั้งโรงงานผลิตกาวในต่างประเทศ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในครึ่งปีหลังนี้ จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 9,000 ตัน/ปี

สำหรับปีนี้บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้จะเติบโตได้ราว 10% จากปีก่อนอยู่ที่ 560.79 ล้านบาท โดยมองผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งในช่วงไตรมาส 3/60 จะมีการเดินเครื่องจักรใหม่สำหรับการผลิตกาวในชิ้นส่วนรถยนต์ และเฟอร์นิเจอร์ โดยคาดหวังจะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 5-10% ในปี 61 จากปัจุบันยังไม่ถึง 3%

นายเอก กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาขยายตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CMV หรือ กัมพูชา,เมียนมา และเวียดนาม รวมถึงออสเตรเลีย ,นิวซีแลนด์ ทวีปยุโรป และสหรัฐฯ ซึ่งจะเน้นการทำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีกาวหลอมร้อน ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าจะมีการเติบโตสูง เพื่อดันสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้เติบโตมากขึ้นในอนาคต จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศอยู่ราว 30% ซึ่งหลักๆ จะมาจากในทวีปเอเชีย และแอฟริกา เป็นต้น

"เรายังคงเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ 10% แม้ว่าแนวโน้มครึ่งปีแรกน่าจะไม่ดี โดยมองแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 จะได้รับผลกระทบจากราคาวัสถุดิบที่ใช้สำหรับทำกาวผันผวน แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังน่าจะกลับมาดีขึ้น จากที่เราสามารถเดินเครื่องจักรใหม่ที่ใช้ในการทำกาวสำหรับรถยนต์ และเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงศึกษาขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง"นายเอก กล่าว

พร้อมกันนี้มองแนวโน้มมูลค่าตลาดกาวในปี 63 คาดจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้น 4.72% เป็น 59,748.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดิม 45,363.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สะท้อนถึงความต้องการใช้กาวอุตสาหกรรมที่มีมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ