ตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,578.62 จุด ลดลง 2.52 จุด (-0.16%) มูลค่าการซื้อขาย 35,925.04 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,584.15 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,577.67จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 432 หลักทรัพย์ ลดลง 669 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 454 หลักทรัพย์
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เป็นลักษณะของการแกว่งตัว รอความชัดเจน 2 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นแรกเป็นการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออก ม.44 แก้ปัญหาการใช้พื้นที่ ส.ป.ก.ซึ่งผลสรุปออกมาในเชิงบวก ทำให้ตลาดฯขยับขึ้นได้บ้าง
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังรอประเด็นที่ MSCI จะมีการเพิ่มน้ำหนักหุ้น A-Shares ของจีนเข้ามาในการคำนวณดัชนี MSCI Emerging Markets Index หรือไม่ หลังจากชะลอไปในปีก่อน ซึ่งจะรู้ผลในเช้าวันพรุ่งนี้ โดยมองว่าหากเพิ่มเข้ามาก็จะเป็น Sentiment ในทางบวก เพียงแต่เงินลงทุนอาจโยกออกไปที่จีนแทน ทั้งนี้ หาก 2 ประเด็นมีความชัดเจนทั้งหมดแล้ว ก็น่าจะทำให้ตลาดฯ Outperform ได้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ก็แกว่งตัวแคบคล้ายตลาดบ้านเรา เนื่องจากต่างก็รอผล MSCI เพราะอาจทำให้เงินทุนไหลออกบางส่วน โดยเฉพาะตลาดขนาดใหญ่อย่าง ตลาดหุ้นเกาหลี และ ไต้หวัน เป็นต้น เพราะทางฝั่งจีน active มากกว่า
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (21 มิ.ย.) นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway up พร้อมให้แนวรับ 1,574 จุด ส่วนแนวต้าน 1,590 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,351.69 ล้านบาท ปิดที่ 154.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,282.55 ล้านบาท ปิดที่ 46.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,251.24 ล้านบาท ปิดที่ 89.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,098.36 ล้านบาท ปิดที่ 192.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SUPER มูลค่าการซื้อขาย 997.93 ล้านบาท ปิดที่ 1.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท