สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คาดว่าจะสรุปผลการเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อการแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อรองรับการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) เสนอให้คณะกรรมการ ก.ล.ต.พิจารณาในวันที่ 29 มิ.ย. ก่อนที่จะส่งเรื่องให้กับกระทรวงการคลังในช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้ โดยขณะนี้มีความเห็นทั้งในแนวทางเห็นด้วยและข้อกังวลรวม 4 ประเด็นหลัก
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ขณะนี้การเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อการแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เพื่อรองรับการจัดตั้งกองทุน CMDF เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยข้อกังวล 4 ประเด็นหลักที่มีการหารือค่อนข้างมากนั้น ได้แก่ การแยกเงินออกมาจัดตั้งกองทุน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นด้วยทั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน สมาคมบริษัทจดทะเบียน และบริษัทจดทะเบียน ,การนำเงินออกมาจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จำนวน 8,000 ล้านบาท ออกมาจัดตั้งกองทุนก็มีความเห็นด้วยเนื่องจากที่ผ่านมา ตลท. เองก็มีผลกำไรค่อนข้างมาก ก็ถือว่าไม่เป็นปัญหาและสามารถทำได้
ส่วนอีก 2 ประเด็นที่หลายฝ่ายยังมีความไม่เห็นด้วย คือ สถานะของกองทุนที่ไม่อยากให้เป็นหน่วยงานของภาครัฐ เพราะหากไปเป็นหน่วยงานของภาครัฐการจะดำเนินการเรื่องต่าง ๆ อาจจะล่าช้า หรือเป็นไปได้แบบที่ไม่คล่องตัว และประเด็นสุดท้ายคือ การให้ตลาดหลักทรัพย์ฯนำส่งกำไร 90% ของกำไรสุทธิในแต่ละปีนั้น อาจจะไม่เหมาะสม เนื่องจากการนำเงินออกไปมากเกินไปอาจจะทำให้การทำงานของ ตลท. มีปัญหา หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ อาจจะไม่คล่องตัวเหมือนที่ผ่านมา
นายรพี กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีการผิดนัดชำระหนี้ตั๋วเงินระยะสั้น (B/E) ของบริษัทจดทะเบียน ในช่วงนี้ไม่ได้เป็นการเกิดขึ้นแบบโดมิโน่ เพราะที่ผ่านมาหากได้มีการติดตามจะเห็นว่าการผิดนัดชำระหนี้ตั๋ว B/E นั้น เกิดขึ้นประมาณ 10 บริษัท เท่านั้น เมื่อเทียบกับผู้ที่ออกมาทั้งหมดในอุตสาหกรรมมีทั้งหมดถึง 400-500 บริษัท และการผิดนัดชำระหนี้ก็มีเหตุผลที่แตกต่างกันในแต่ละบริษัท สถานการณ์ที่แตกต่างกัน และอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งความรับผิดชอบมากที่สุดก็คงต้องเป็นผู้ที่ออกที่จะอธิบายถึงความเสี่ยง การหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมานำเสนอเพื่อการลงทุน
ส่วนกรณีของ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) นั้นปัจจุบันก็อยู่ระหว่างรอบริษัทแจ้งแนวทางในการชำระหนี้ว่าจะทำอย่างไร ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปจนกว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จ