ECF-QTC-VTE ผนึกกำลังลงทุนโรงไฟฟ้าในเมียนมา 220 MW คาดเริ่ม COD ปี61

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 5, 2017 14:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) และ บมจ.วินเทจ วิศวกรรม (VTE) ร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาด 220 เมกะวัตต์ ที่เมืองมินบู รัฐมาเกวย ประเทศเมียนมา ผ่านบริษัท เพลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) หรือ GEP คาดเริ่มการจ่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์(COD)ได้ปี 61 โดย VTE ได้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างทั้งโครงการ

GEP มีบริษัทจดทะเบียนจากประเทศไทยเข้าร่วมถือหุ้นด้วยกันสามบริษัทคือ บริษัท อีซีเอฟ พาวเวอร์ จำกัด (ECF-Power) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ECF ถือหุ้น 20% บริษัท คิวทีซีโกลบอลพาวเวอร์ จำกัด (QTCGP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ QTC ถือหุ้น 15% และ VTE ถือหุ้น 12% สำหรับผู้ถือหุ้นที่เหลือคือ Noble Planet Pte. Ltd.(สัญชาติสิงคโปร์) ถือหุ้น 5% และ Planet Energy Holdings Pte. Ltd. (สัญชาติสิงคโปร์) ถือหุ้น 48%

ทั้งนี้ GEP มีบริษัทย่อย 1 แห่ง ถือหุ้น 100% คือ บริษัท จีอีพี (เมียนมาร์) จำกัด (GEP-Myanmar) เป็นบริษัทสัญชาติเมียนมา ซึ่งได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement :PPA) กับ Electric Power Generation Enterprise (EPGE) ซึ่งเป็นองค์กรที่อยู่ภายใต้ Ministry of Electricity and Energy ของเมียนมา โดย EPGE จะรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 220 เมกะวัตต์ หรือโครงการมินบูคิดเป็นอัตราการรับซื้อไฟฟ้าสูงสุดที่ 170 เมกะวัตต์ เป็นระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่วันเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date : COD) ในอัตราการรับซื้อไฟฟ้าคงที่ที่ 0.1275 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อหน่วยไฟฟ้า ตลอดอายุสัญญาของ PPA โครงการผลิตไฟฟ้าได้แบ่งออกเป็น 4 เฟส มีระยะเวลาห่างกันทุก ๆ 1 ปี รวมกำลังผลิตติดตั้งทั้งสิ้น 220 เมกะวัตต์ อัตราการรับซื้อสูงสุด 170 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่ม COD เฟส 1 ได้ตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ