ตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,569.24 จุด ลดลง 0.20 จุด (-0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 39,625.18 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,572.02 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,564.75 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 509 หลักทรัพย์ ลดลง 615 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 305 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบมาก และ Underperform เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ตลาดหลักส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก โดยต่างหันมาโฟกัสที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/60 มากกว่า อย่างวันนี้กลุ่มแบงก์ช่วยประคองตลาดฯไว้ แม้ว่าคาดการณ์ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 2/60 จะอ่อนลง แต่ก็ถือว่าอ่อนไม่มาก โดยฝ่ายวิจัยคาดการณ์งบฯกลุ่มแบงก์จะติดลบ 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และติดลบ 4% จากไตรมาสก่อน ซึ่งก็ถือว่าเป็นอัตราลดลงไม่มากนัก เนื่องจากงบฯของแบงก์ขนาดเล็กอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ทั้งนี้ ปัจจัยนอกประเทศที่จะต้องติดตามเป็นเรื่องประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายต่อสภาฯรอบครึ่งปีในวันพุธนี้ ซึ่งก็คิดว่าไม่มีน้ำหนักมาก นอกจากนี้ให้ติดตามทิศทางราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เพราะมีผลต่อกลุ่มพลังงาน อีกทั้งให้ติดตามเกณฑ์การคุมสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.) น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580-1,590 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,867.27 ล้านบาท ปิดที่ 60.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,763.29 ล้านบาท ปิดที่ 23.90 บาท ลดลง 0.80 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,968.90 ล้านบาท ปิดที่ 496.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,809.51 ล้านบาท ปิดที่ 49.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,507.85 ล้านบาท ปิดที่ 183.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท