ตลท.มองกองทุนรักษาเสถียรภาพยางช่วยหนุนปริมาณซื้อขายแต่ราคายังเป็นไปตามตลาดโลก

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงนโยบายการจัดตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพราคายางของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เพื่อดูแลการซื้อขายยางพาราทั้งในตลาดการค้าแบบส่งมอบทันที (Spot Market) และตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้า (Futures Market) ว่า น่าจะส่งผลดีต่อปริมาณการซื้อขายในตลาดมีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามเรื่องราคายางพารายังคงเป็นไปตามราคาตลาดโลก

ทั้งนี้ การดำเนินงานของตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ภายหลังควบรวมกันและเริ่มนำสินค้ายางพาราเข้ามาซื้อขายในตลาด TFEX เป็นสินค้าแรก ปัจจุบันมีสภาพคล่องมากขึ้นในระดับ 100 สัญญาต่อวัน เมื่อเทียบกับในอดีตก่อนที่จะมีการควบรวมกัน ตลาด AFET มีสภาพคล่องน้อยมาก

แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อผู้ประกอบการในตลาด AFEX ภายหลังการควบรวมสองตลาดเข้าด้วยกัน พบว่าบริษัทเล็กที่มีเงินทุนไม่มากนักเลือกที่จะลาออกไป เนื่องจากการเป็นโบรกเกอร์ไม่ได้รับการสนับสนุนเหมือนเดิม ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเน้นในเรื่องของปริมาณการซื้อขาย ถ้าบริษัทนั้นๆ ไม่มีปริมาณการซื้อขาย ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ไม่สามารถสนับสนุนได้

"จากการควบรวม 2 ตลาดเข้าด้วยกันสิ่งที่ได้เพิ่มขึ้น คือ สภาพคล่อง ปริมาณลูกค้า และผู้ประกอบการยางพาราที่เข้ามาซื้อขายในตลาดประเทศไทยมากขึ้น จากช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการหันไปซื้อขายในตลาดต่างประเทศ ซึ่งเชื่อว่าถ้าสภาพคล่องเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ค้าก็จะกลับมา และทำให้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น" นางเกศรา กล่าว