โบรกฯเชียร์"ซื้อ"KKP เก็งสินเชื่อ-กำไรปีนี้โตดีหลังปรับกลยุทธ์ลดพึ่งพาเช่าซื้อ-ส่อแววตั้งสำรองฯลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 17, 2017 16:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ต่างเชียร์ "ซื้อ" ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อรวมในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตได้ดีราว 6-8% เป็นการเติบโตที่ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก หลังหันมาเน้นสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อเอสเอ็มอีมากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาสินเชื่อเช่าซื้อ อีกทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ จะช่วยเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลัง

นอกจากนี้ คุณภาพของลูกหนี้เริ่มปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้การตั้งสำรองฯมีแนวโน้มลดลง พร้อมประมาณการกำไรสุทธิปี 60 ของ KKP ในช่วง 5.9-6.2 พันล้านบาท

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.47 น.หุ้น TISCO อยู่ที่ 75 บาท ลดลง 3.00 บาท (-3.85%)

          โบรกเกอร์           คำแนะนำ           ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          บัวหลวง               ซื้อ                     85.00
          เอเชีย เวลท์           ซื้อ                     81.00
          เอเซีย พลัส            ซื้อ                     78.50
          ฟินันเซีย ไซรัส          ซื้อ                     77.00

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง ปรับประมาณการกำไรสุทธิ KKP ในปี 60 เพิ่มขึ้นเป็น 6.2 พันล้านบาท จากเดิมที่คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 5.7 พันล้านบาท จากแนวโน้มการตั้งสำรองฯที่คาดว่าจะต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ในระดับ 2.2 พันล้านบาท หลังจากคุณภาพของลูกหนี้เริ่มปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มสินเชื่อลูกค้ารายย่อย และเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ซึ่งเป็นกลุ่มสินเชื่อที่ให้กำไรมากกว่าสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์

นอกจากนี้ คาดว่าสินเชื่อรวมของธนาคารในปีนี้มีโอกาสเติบโตได้สูงถึง 8% จากประมาณการเดิมที่คาดว่าจะเติบโตราว 5% เพราะสินเชื่อรวมของธนาคารได้เร่งตัวค่อนข้างมากในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ที่เติบโตได้ราว 3.7% ขณะที่สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นและคาดว่าจะต่ำกว่าที่ธนาคารคาดไว้ที่ 5.6% มาอยู่ที่ 5.2% เพราะการบริหารจัดการที่ดี

ด้านนายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ คาดว่า แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อรวมไนช่วงครึ่งปีหลังของ KKP ยังเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่คาดว่าเติบโตได้ 3.9% เพราะกลยุทธ์ของธนาคารที่หันมาเน้นสินเชื่อกลุ่มอื่น ๆ แทนสินเชื่อเช่าซื้อ เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเคหะ และสินเชื่อเอสเอ็มอี รถคูณ 3 เป็นต้น อีกทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังที่คาดว่าจะสูงกว่าครึ่งปีแรก โดยคาดว่าทั้งปีนี้สินเชื่อจะเติบโตได้ราว 6%

ส่วนแนวโน้มของกำไรสุทธิคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตสูงกว่าครึ่งปีแรกตามการเติบโตของสินเชื่อ และงานด้านวาณิชธนกิจที่ธนาคารยังมีดีล IPO รอเสนอขายในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับ แนวโน้มการตั้งสำรองที่คาดว่าจะลดลง หลังจากคุณภาพของ NPL ปรับตัวดีขึ้น โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ที่ 5.9 พันล้านบาท หรือเติบโต 6.4% จากปีก่อน

นอกจากนี้ มองว่า KKP มีความน่าสนใจในแง่ของเงินปันผลมีความน่าสนใจและอยู่ไนระดับที่ดีที่ 5.5%

ขณะที่ น.ส.สุนันทา วสะภิญโญกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินแนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อรวมในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะขยายตัวได้มากกว่าครึ่งปีแรกที่เติบโต 4% หลังจากที่ธนาคารปรับกลยุทธ์ใหม่โดยเน้นกลุ่มสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อเอสเอ็มอีมากขึ้น และลดการพึ่งพากลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อลดลง ซึ่งเริ่มเห็นผลการขยายตัวของสินเชื่อตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา คาดว่าจะทำให้การขยายตัวของสินเชื่อรวมในปีนี้เติบโตได้ 8% มากกว่าประมาณการเดิมที่คาดว่าเติบโตได้ 5%

ขณะเดียวกันยังได้ปรับประมาณการกำไรปืนี้เพิ่มขึ้นเป็น 6.1 พันล้านบาท หรือเติบโต 10% จากปีก่อน จากเดิมที่คาดว่าอยู่ที่ 5.9 พันล้านบาท หรือเติบโต 6.5% จากปีก่อน เป็นไปตามการเติบโตของสินเชื่อ ประกอบกับธนาคารยังมีรายได้จากงานวาณิชธนกิจเข้ามาเสริม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดีลขนาดใหญ่ และยังมีการขาย NPA ที่ทยอยบันทึกกำไรเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตของกำไรในปีนี้

ด้านแนวโน้มของ NPL ธนาคารยังคงมีการบริหารจัดการที่ดี แต่ยังไม่น่าเป็นห่วง เพราะสินเชื่อส่วนใหญ่ของธนาคารเป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน ซึ่งมองว่า NPL ของธนาคารในปีนี้จะอยู่ในระดับ 5.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ