KKP แจงกำไร Q2/60 ลดลง 8.6% YoY จากตั้งสำรองเพิ่ม-สินเชื่อเช่าซื้อยังหดตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 21, 2017 13:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารเกียรตินาคินและบริษัทย่อย (KKP) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 เปรียบเทียบกับไตรมาส 2/59 มีกำไรสุทธิ ไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 1,185 ล้านบาท ลดลง 8.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ในส่วนของผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ธนาคารเกียรตินาคิน และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 2,709 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ณ สิ้นไตรมาส 2/60 มียอดสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและค่าเผื่อการปรับมูลค่าจากการปรับโครงสร้างหนี้มีจำนวน 11,089 ล้านบาท โดยมียอดสำรองทั่วไปทั้งสิ้น 4,500 ล้านบาท อัตราส่วนสำรองทั้งสิ้นต่อสำรองตามเกณฑ์เท่ากับ 185.1% เปรียบเทียบกับ 169.8% ณ สิ้นไตรมาส 2/59 และมีอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพเท่ากับ 104.6% เพิ่มขึ้นจาก 95.7% ณ สิ้นไตรมาส 2/59

ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) คำนวณตามเกณฑ์ Basel III ซึ่งรวมกำไรถึงสิ้นปี 2559 อยู่ที่ 17.54% โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 14.20% แต่หากรวมกำไรถึงสิ้นไตรมาส 2/60 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะเท่ากับ 18.64% และเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 15.30%

ภาพรวมการดำเนินงาน สินเชื่อของธนาคารไตรมาส 2/60 มีการขยายตัวที่ 2.8% จากสิ้นไตรมาส 1/60 ส่งผลให้ครึ่งปีแรกของปี 2560 สินเชื่อโดยรวมของธนาคารขยายตัวที่ 4.1% โดยสินเชื่อของธนาคารที่มีการขยายตัว ได้แก่ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ขยายตัวที่ 93.2% สินเชื่อ Micro SMEs ซึ่งรวมสินเชื่อ KK SME รถคูณ 3 ขยายตัวที่ 51.7% สินเชื่อบุคคลขยายตัวที่ 18.7% สินเชื่อบรรษัทขยายตัวที่ 106.8% สินเชื่อ Lombard ขยายตัวที่ 15.3% และสินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวเล็กน้อยที่ 0.5% ในขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อหดตัว 5.2% จากสิ้นปี 2559

ในด้านคุณภาพของสินเชื่อ ปริมาณสินเชื่อด้อยคุณภาพรวมมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับสิ้นปี 59 โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/60 อยู่ที่ 5.8% เพิ่มขึ้นจาก 5.6% ณ สิ้นปี 2559 ทางด้านธุรกิจบริหารหนี้ ธนาคารขายสินทรัพย์รอการขายได้ ในไตรมาสที่ 2/60 จำนวน 142 ล้านบาท

ทางด้านธุรกิจตลาดทุน บล.ภัทร มีส่วนแบ่งตลาด(SET และ mai ไม่รวมบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท) ที่ 4.93% เพิ่มขึ้นจาก 4.51% ในไตรมาส 1/60 ซึ่งเป็นอันดับที่ 5 จากจำนวนบริษัทหลักทรัพย์ ทั้งหมด 37 แห่ง สำหรับในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในไตรมาส 2/60 บล.ภัทร ได้เปิดให้บริการ Global Investment Service (GIS) ซึ่งเป็นการให้บริการการลงทุนต่างประเทศสำหรับลูกค้าบุคคลรายใหญ่ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารเงินลงทุนในต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ