(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลง ตามตลาดตปท.ราคาน้ำมันร่วงกดหุ้นพลังงาน,จับตาบจ.ประกาศงบฯ Q2/60

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 24, 2017 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มที่จะปรับลดลง หลังได้รับปัจจัยกดดันจากตลาดต่างประเทศที่อยู่ในช่วงประกาศผลประกอบการของบจ. ซึ่งเมื่อวันศุกร์ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลง จากผลประกอบการของ GE ที่อ่อนแอลง ประกอบกับราคาน้ำมันที่ร่วงลงฉุดให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับลดลงด้วย ด้านตลาดหุ้นเอเชีย เปิดมาเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเช่นกัน

สำหรับตลาดหุ้นไทย ซึ่งส่วนใหญ่มีน้ำหนักการลงทุนอยู่ในหุ้นที่อิงกลุ่มน้ำมัน ก็น่าจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงด้วย รวมถึงยังต้องจับตาการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/60 ของกลุ่ม real sector หลังจากกลุ่มแบงก์ได้ประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว ซึ่งในสัปดาห์นี้จะเป็นการประกาศของบจ.ขนาดใหญ่ อย่าง SCC ,PTTEP ซึ่งแนวโน้มผลประกอบการยังมีทิศทางที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นก็ได้ตอบรับคาดการณ์ดังกล่าวไปแล้วบางส่วน

ขณะเดียวกันตลาดยังจับตาการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ ซึ่งเบื้องต้นตลาดคาดการณ์ว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของไทยประจำเดือนมิ.ย. ซึ่งคาดการณ์ว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยไม่ได้ตอบรับมากนัก

พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,567 และ 1,564 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,579 และ 1,584 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 ก.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,580.07 จุด ลดลง 31.71 จุด (-0.15%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,387.75 จุด ลดลง 2.25 จุด (-0.04%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,472.54 จุด ลดลง 0.91 จุด (-0.04%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 126.08 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 7.08 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 13.95 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 10.57 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.94 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.19 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 4.69 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ก.ค.60) 1,573.51 จุด ลดลง 1.77 จุด (-0.11%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 551.24 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ก.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 ก.ค.60) ปิดที่ 45.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 2.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ก.ค.60) ที่ 7.98 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.43 แข็งค่าต่อเนื่องในรอบ 26 เดือนจากแรงขายดอลล์หลังกังวลการเมืองสหรัฐฯ
  • จับตาวิกฤตการเมืองระหว่างประเทศ ลุ้นทองคำดีดกลับไปทดสอบแนวต้าน 1,295 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่การเปลี่ยนท่าทีการดำเนินนโยบายการเงินธนาคารกลางสำคัญกระทบค่าเงินผันผวนกระตุ้น การลงทุนในพันธบัตรระยะยาว อาจกดดันราคาทองอ่อนหลุดแนวรับ 1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  • คลังสุดอู้ฟู่ หลังสรุปราคาหุ้นรัฐวิสาหกิจในมือมูลค่าสูงปรี๊ดกว่า 1.4 ล้านล้านบาท พร้อมจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเร่งพิจารณาขายหุ้นเอกชนที่ถืออยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ถืออยู่ในสัดส่วนที่ไม่มาก และเป็นการถือครองมานาน และไม่มีความจำเป็นต้องถืออีกต่อไป และการขายก็ไม่ได้มีผลต่อตลาดหลักทรัพย์แต่อย่างไร เพราะหุ้นส่วนใหญ่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ สำหรับหุ้นรัฐวิสาหกิจในตลาดหลักทรัพย์นั้น กระทรวงการคลังไม่มีนโยบายที่จะขาย เนื่องจากเป็นหุ้นรัฐวิสาหกิจที่มีความสำคัญในการช่วยสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และบางรัฐวิสาหกิจมีกฎหมายกำหนดไว้ว่าคลังต้องถือหุ้นต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด
  • บอร์ดตลท. ชี้ต่างชาติไม่กังวลเลือกตั้ง แต่ห่วงนโยบายไม่ชัดเจน-ขั้นตอนลงทุนซับซ้อน จี้รัฐแก้ด่วนด้านกองทุนฯ ห่วงนักการเมืองจัดกิจกรรมรับเลือกตั้งป่วนเศรษฐกิจ
  • "สมคิด"สั่งการให้เร่งหาแนวทางเพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)เข้าถึงเครื่องมือทางการเงิน ในระยะเร่งด่วน คือการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (เฮดจิ้ง) ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท ขณะที่ธปท.ยอมรับว่าค่าเงินบาทในปัจจุบันมีความผันผวนเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี ธปท. มองว่า ถึงแม้ค่าเงินบาทในประเทศอาจจะมองว่าจะแข็งค่าเพิ่มขึ้นแต่จริง ๆ แล้ว ถ้าเทียบกับในประเทศอื่นก็ถือว่าแข็งค่าขึ้นไม่มากนัก
  • ผู้ว่าการ ธปท.ระบุว่าเรื่องการออกเกณฑ์ดูแลสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน มีข้อสรุปในรายละเอียดต่าง ๆ และตนได้ลงนามในราชกิจจานุเบกษาแล้ว อยู่ระหว่างการรอเพื่อประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาที่จะออกมาในสัปดาห์หน้า (24-28 ก.ค.) และจะมีผลบังคับใช้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 1 ก.ย. 2560 ซึ่งถือว่ามีช่วงเวลาให้ภาคเอกชนสามารถปรับตัวได้ทัน
  • พ.ร.บ.สรรพสามิตใหม่ กำหนดวิธีจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมตามระดับความหวานใน 5 ระดับ แต่เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาปรับตัวกำหนดให้ 2 ปีแรกหลังการบังคับใช้กฎหมายภาระการจ่ายภาษีจะยังใกล้เคียงกับที่เคยจ่ายในปัจจุบัน ส่วนการปรับขึ้นอัตราภาษีจะดำเนินการหลังครบ 2 ปีนั้นจะทำการปรับขึ้น 100%
  • รักษาการผู้ว่าการ รฟม. เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 ก.ค.นี้ จะมีการเสนอโครงการรถไฟฟ้าเข้าสู่ที่ประชุม ครม.พิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร วงเงิน 1.31 แสนล้านบาท ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร วงเงิน 1.21 แสนล้านบาท อาจเสนอ ครม.ล่าช้ากว่าแผนเล็กน้อย
*หุ้นเด่นวันนี้
  • BCP (เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 40 บาท โดยมอง BCP เป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของค่าการกลั่นล่าสุดเข้าใกล้ 8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อีกทั้งราคาน้ำมันต่ำ และทิศทางของ Premium Brent-Dubai ที่แคบลงยังช่วยหนุนค่าการกลั่นอีกด้วย ราคาหุ้น YTD ยังปรับตัวแย่กว่ากลุ่มที่ปรับขึ้น 8-22% แนวโน้มผลประกอบการ 2Q60 ที่อ่อนตัวลงเป็นที่รับรู้ของตลาดอยู่แล้ว ทั้งนี้ ชอบ BCP จากการเป็นโรงกลั่น Defensive ผลประกอบการผันผวนต่ำ มีปัจจัยบวกระยะกลางจากการ IPO ธุรกิจผลิตภัณฑ์ Bio Based
  • MFEC (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 6 บาท โดยคาดกำไรปกติปี 2560-2561 โตเฉลี่ย 35% ต่อปี จากการลงทุนด้านไอทีของกลุ่มแบงก์และสื่อสาร ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PBV เพียง 1 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ 2.3 เท่า และมีเงินสดในมือสูงถึง 2.2 บาท/หุ้น ขณะที่แทบไม่มีหนี้ที่มีดอกเบี้ย ปันผลสม่ำเสมอ 6% ต่อปี
  • AOT (ธนชาต) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 60 บาท ขณะที่มีมุมมองบวกมากขึ้นต่อการทำสัญญาส่วนแบ่งรายได้พื้นที่เช่า duty free หลังปี 2563 และรายได้พื้นที่เช่าสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการ rollover เป้าหมายเป็นปี 2561 ทำให้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 60 บาท จากเดิม 47.50 บาท โดยยังไม่รวม upside risk จากการพัฒนา airport city บนพื้นที่ 1,600 ไร่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ