SORKON ปรับแผนโฟกัสกลุ่มธุรกิจ QSR หวังสิ้นปีดันยอดขาย 160 ลบ. มองกำลังซื้อ H2/60 ยังชะลอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 31, 2017 13:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ (SORKONX กล่าวว่า แม้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีหลังของปีนี้จะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก แต่บริษัทฯ มองว่าการเติบโตดังกล่าวจะเป็นเพียงบางกลุ่มธุรกิจ เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก ส่วนกลุ่มเกษตรกรซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศยังประสบภาวะราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ส่งผลกระทบต่อเงินในกระเป๋าและการจับจ่ายซื้อสินค้าลดลง ประกอบกับพฤติกรรมการบริโภคของคนรุ่นใหม่ที่เน้นความสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้บริษัทมีแผนเน้นทำธุรกิจกลุ่ม QSR ให้สอดคล้องกับเทรนด์ตลาดเพื่อผลักดันยอดขายเติบโตตามแผนที่วางไว้

"จากการประเมินภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้คาดว่าจะไม่ดีนัก เนื่องจากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยรวมถึงบรรยากาศการซื้อสินค้าที่ยังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะผู้บริโภคในต่างจังหวัดที่เป็นกลุ่มเกษตรกรซึ่งได้รับปัจจัยลบจากแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำทำให้มีรายได้จากการเพาะปลูกลดลง ขณะที่กลุ่มผู้บริโภคระดับรากหญ้า ก็ประสบปัญหาหนี้ครัวเรือนทำให้มีความระมัดระวังในการใช้จ่ายเงินมากขึ้น"

นายเจริญ กล่าวว่า จากปัจจัยดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมยอดขายสินค้ากลุ่มธุรกิจอาหารพื้นเมืองของบริษัทฯ ที่คาดว่าจะเติบโตเล็กน้อย เมื่อเทียบกับกลุ่มสินค้าอื่น ๆ เช่น กลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน และกลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นกว่า ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีนโยบายมุ่งผลักดันการเติบโตของยอดขายจากทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจดังกล่าวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนที่พบว่าในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มีอัตราการเติบโตสูงถึง 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และยังมีแผนเร่งขยายสาขาให้ครอบคลุมไปยังกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้น

นายจรัสภล รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่สายงาน QSR กล่าวว่า บริษัทมีแผนเปิดขายแฟรนไชส์แก่ผู้ที่สนใจทำธุรกิจร้านอาหารได้มีโอกาสเป็นเจ้าของร้านแซ่บคลาสิกเพิ่มเติม โดยในปีนี้ตั้งเป้ามี 20 สาขา แบ่งเป็น สาขาที่บริษัทลงทุนเอง 13 สาขา และ แฟรนไชส์อีก 7 สาขา พร้อมกันนี้ยังมีแผนพัฒนาเมนูอาหารใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นด้วย

ส่วนร้านข้าวขาหมูยูนนาน บริษัทจะเน้นการเปิดสาขาขนาดเล็ก (คีออส) ผ่านการขายแฟรนไชส์แก่ผู้ที่สนใจ ซึ่งใช้เงินลงทุนประมาณ 100,000 บาท เพื่อรุกเข้าสู่แหล่งชุมชน ซึ่งปัจจุบันได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการเปิดร้านข้าวขาหมูเป็นจำนวนมาก ซึ่งตั้งเป้าหมายจะเปิดเพิ่มอีก 30 สาขาทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน จาก ณ สิ้นปี 2559 ที่มี 24 สาขา แบ่งเป็นในประเทศไทย 19 สาขา กัมพูชา 3 สาขา สปป.ลาว 2 สาขา พร้อมกันนี้ จะจัดทำเมนูขาหมูพร้อมรับประทานจำหน่ายภายในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการซื้อกลับบ้านอีกด้วย

ทั้งนี้ จากแผนงานดังกล่าว เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจ QSR ในปีนี้ทำยอดขายเติบโตมากกว่า 40% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาและช่วยผลักดันภาพรวมการดำเนินงาน ส.ขอนแก่นในปีนี้ สามารถทำยอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ตามแผนที่วางไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ