นายจักรพันธ์ ประจวบเหมาะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจพี เวิลด์ เทรดดิ้ง ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์ขายรถจักรยานยนต์มือสอง และบริการลีสซิ่งในรูปแบบแฟรนไชส์ ภายใต้ชื่อ JP WORLD และธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าและโลจิสติกส์ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) คาดจะเห็นความชัดเจนภายในปี 61 โดยจะใช้ชื่อหุ้นว่า "JPWORLD" วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปขยายพื้นที่จัดเก็บรถจักรยานยนต์มือสองที่ประมูลมา และขยายพื้นที่คลังสินค้าให้เช่า
ทั้งนี้ เจพี เวิลด์ เทรดดิ้ง มีการดำเนินธุรกิจใน 2 ส่วน คือ ธุรกิจศูนย์ขายรถจักรยานยนต์มือสอง และบริการลิสซิ่งในรูปแบบแฟรนไชส์ ปัจจุบันมีสาขาในประเทศทั้งสิ้นราว 150 สาขา และในประเทศเมียนมาราว 8 สาขา โดยสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีสาขาโดยรวมเพิ่มอีก 30 สาขา ขณะที่บริษัทเตรียมจัดแคมเปญใหญ่ครบรอบ 7 ปีเพื่อกระตุ้นการขยายเฟรนไชส์ในพื้นที่ต่างจังหวัดให้มากขึ้น
สำหรับแพ็คเกจล่าสุดในการขยายแฟรนไชส์มอเตอร์ไซค์มือสอง ด้วยเม็ดเงินลงทุนเพียง 270,000 บาท ซึ่งจะได้รถมอเตอร์ไซค์ 8 คัน พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ แถมมอเตอร์ไซค์ฟรี 1 คัน รวมไปถึงแถมรถจักรยานมือหนึ่งอีก 5 คัน และยังมีการออกแพ็คแก็จขนาดใหญ่ ลงทุน 750,000 บาท จะได้มอเตอร์ไซค์ทั้งสิ้น 20 คัน แถมมอเตอร์ไซค์มือสองเพิ่ม 2 คัน และจักรยานมือหนึ่งอีก 10 คัน
นอกจากนี้ บริษัทยังมีธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าและโลจิสติกส์ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งสิ้น 1 ไร่ สามารถเก็บสินค้าได้ตั้งแต่รายละ 5-50 ตารางเมตร โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน ส.ค.นี้ เพื่อให้บริการแก่ผู้ประกอบการ SME หรือสตาร์ทอัพที่ไม่มีพื้นที่เก็บสินค้า รวมถึงยังมีบริการบรรจุผลิตภัณฑ์ และนำส่งไปรษณีย์ จากปัจจุบันมีรถส่งสินค้ารวม 4 คัน ถือเป็นบริการรูปแบบ One Stop Service คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ราวปีละ 100 ล้านบาท
"จุดเด่นธุรกิจโกดังให้เช่าของ เจพี เวิล์ด เทรดดิ้ง นับเป็นพื้นที่ให้เช่าที่มีมาตราฐานสูง แต่ราคาถูกกว่าท้องตลาดที่ให้เช่าตลาดเมตรละ 250-300 บาท โดยเราให้เช่าเพียงตารางเมตรละ 150 บาท เพื่อรองรับกับกระแสการดำเนินธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ของประชาชน ทั้งที่ดำเนินธุรกิจเต็มตัว รวมไปถึงการดำเนินธุรกิจเป็นงานอดิเรก เพราะที่ผ่านมาผู้ขายสินค้าจะต้องประสบปัญหากับงานหลังบ้าน และไม่มีที่จัดเก็บสินค้า โดย เจพีเวิล์ด เทรดดิ้ง มีประสบการด้านโลจิสติกส์ จากการจัดส่งมอเตอร์ไซค์ค่อนข้างมาก ดังนั้นการแตกไลน์มาสู่ธุรกิจให้เช่าพื้นที่จัดเก็บสินค้าเพื่อลูกค้ารายย่อย คาดว่าจะได้ผลตอบรับที่ดี"นายจักรพันธ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการในปี 59 บริษัทมีรายได้ราว 90 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 6-7 ล้านบาท ซึ่งภายในปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้เพิ่มเป็น 100 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิราว 10 ล้านบาท
นายจักรพันธ์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์มือสอง ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างมาก จากยังมีความต้องการอยู่ โดยเฉพาะในช่วงที่ประชาชนมีกำลังซื้อน้อย ซึ่งภาพรวมตลาดที่ผ่านมาเติบโตราวปีละ 30-40%