TLUXE คาดธุรกิจอาหารสัตว์-พลังงาน H2/60 ยังโตดีหนุนรายได้ปีนี้กว่า 1.8 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 16, 2017 10:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวิทย์ วรรณะศิริสุข ผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน บมจ.ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE) คาดว่าจากแผนการขยายธุรกิจของบริษัทส่งผลให้ภายในสิ้นปี 60 บริษัทฯ จะมีอัตราการเติบโตของรายได้มากกว่า 1,800 ล้านบาท โดยในครึ่งปีหลัง 60 มั่นใจว่าธุรกิจมีอัตราการเติบโต ตามการขยายตัวของผู้ประกอบการเลี้ยงสัตว์น้ำ กุ้ง ปลา และ สัตว์เลี้ยง โดยในช่วงไตรมาส 3/60 ยังเน้นการทำตลาดเชิงรุก ทั้งขยายฐานลูกค้ารายหลัก รายใหม่ และรายเดิม เพื่อสร้างยอดขายให้เติบโตเพิ่มขึ้น

บริษัทจึงได้กำหนดนโยบาย โดยเน้นเรื่องคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก และให้บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำ ตรวจสุขภาพกุ้งพร้อมให้คำปรึกษา ตลอดจนความรู้ทางวิชาการ เพื่อให้ลูกค้าตัวแทนจำหน่าย และ เกษตรกรผู้เลี้ยงโดยตรง ได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและบริการที่เป็นเลิศ นอกจากนี้ยังจะเน้นทำการตลาดผ่าน Social media ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้เกษตรกรประสบผลสำเร็จในการเลี้ยงมากขึ้น

ในขณะที่ด้านอาหารปลา มีการเพิ่มลูกบ่อ และขยายตลาดปลาให้กับลูกค้า รวมถึงขยายการทำตลาดในกลุ่มอาหารปลาทะเล เช่น อาหารปลากะพง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่การเพาะเลี้ยงหลัก ในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ และขยายไปยังพื้นที่การเพาะเลี้ยงในเขตภาคใต้ อาทิ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร เป็นต้น เพื่อเป็นการขยายฐานตลาดในกลุ่มสินค้าเกรดพรีเมี่ยม และสร้างมูลค่าเพิ่มให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น

ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังผลิตอาหารปลาที่ 61,000 ตัน และอาหารกุ้งที่ 80,400 ตัน โดยมีการขยายการตลาดอาหารปลา ไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และ ประเทศมาเลเซีย เป็นต้น ซึ่งมียอดส่งออกประมาณ 20%

ส่วนการดำเนินธุรกิจพลังงานของบริษัทย่อย โรงไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) และพลังงานลม ในประเทศญี่ปุ่นนั้น หลังจากการบอร์ดมีมติอนุมัติลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ เพิ่มอีก 10 โครงการช่วงต้นเดือน ส.ค.คาดว่าจะเริ่มขายไฟฟ้าได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งการลงทุนเพิ่มใน 10 โครงการดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศญี่ปุ่น ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ทันทีในไตรมาส 3 นี้ รวมจำนวนทั้งสิ้น 13 โครงการ

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพเพิ่มในไตรมาส 4/60 อีกจำนวน 10 โครงการ รวมแล้วบริษัทจะมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ทั้งสิ้น 23 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมด 2,875 กิโลวัตต์ หรือกำลังการผลิตเทียบเท่ากับ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 23 เมกะวัตต์ ในปี 60 ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่เมืองอาโอโมริ (Aomori) ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 7 โครงการ มูลค่าการลงทุน 80 ล้านบาท นั้น คาดว่าจะเริ่มขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 3 เช่นเดียวกัน

สำหรับ ผลดำเนินงานประจำงวดไตรมาส 2/60 บริษัทฯ มีรายได้รวม 455.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13 % และมีกำไรสุทธิ 15.87 ล้านบาท และมี EBITDA หรือกำไรก่อนหักภาษี และดอกเบี้ยงวดไตรมาส 2/2560 อยู่ที่ 58 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน (มค.- มิย.) มีรายได้รวม 877 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16% และมีกำไรสุทธิ 22.5 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ และ สัตว์เลี้ยง ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งรับรู้รายได้จากการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) 3 โครงการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ