นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เดอะ สตีล (THE) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/60 มีแนวโน้มเติบโตดี โดยน่าจะได้รับผลบวกจากต้นทุนราคาเหล็กที่ยังค่อนข้างต่ำ ประกอบกับ มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดว่าราคาขายเหล็กในเดือน ส.ค.-ก.ย.จะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากช่วงไตรมาส 2 ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝน ทำให้ความต้องการใช้งานเหล็กก่อสร้างลดน้อยลงกว่าช่วงปกติกดดันให้ราคาขายปรับลดลงไปด้วย
“เราเชื่อว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/60 ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยเราคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/60 มีสัญญาณดีขึ้นจากไตรมาสก่อน เนื่องจากราคาเหล็กที่ขายใน Q2 เป็นราคาเหล็ก (ราคาทุน) ที่ซื้อมาในราคาที่ค่อนข้างสูง จึงส่งผลให้การทำกำไรของเราลดลง ซึ่งเราเองก็ยังมองโอกาสในการประกอบธุรกิจใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิมอย่างต่อเนื่อง"นายบุญชัย กล่าว
สำหรับผลประกอบการครึ่งแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.60) บริษัทมีรายได้รวม 6,961.47 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 18.25 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากในไตรมาส 2/60 บริษัทมีรายได้รวม 3,477.17 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 59 ที่มีรายได้รวม 4,170.82 ล้านบาท คิดเป็นรายได้รวมลดลง 693.65 ล้านบาท โดยมูลค่าขายที่ลดลงส่วนใหญ่มาจากปริมาณการขายเหล็กลดลง
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทฯ รับรู้กำไรจากการซื้อทรัพย์สินในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมจำนวน 9.63 ล้านบาท หลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดและภาษีเงินได้แล้ว
ด้านสินทรัพย์รวมของกลุ่มบริษัท ณ สิ้น 30 มิ.ย.60 มียอดรวม 6,283.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 879.91 ล้านบาทเมื่อเทียบกับ ณ สิ้น 31 ธ.ค.59 ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของลูกหนี้การค้าปลายงวดที่ทางกลุ่มเร่งขายออกประมาณ 572 ล้านบาทเป็นผลให้สินค้าปลายงวดลดเช่นกันประมาณ 441 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังได้ซื้อสินทรัพย์ประเภทที่ดิน อาคารสิ่งปลูกสร้างและยานพาหนะจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกันและมีการชำระเงินในไตรมาสนี้อีกประมาณ 460 ล้านบาท
นายบุญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทตั้งเป้าปริมาณขายเหล็กในปีนี้ไว้ที่ประมาณ 9 แสนตันใกล้เคียงกับปีก่อน โดยคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ อาทิ โครงการรถไฟไทย-จีน หรือ รถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม.เงินลงทุน 179,412 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเฟสแรก 3.5 กม.สถานีกลางดง-ปางอโศก ซึ่งทางรัฐบาลได้ส่งหนังสือขอข้อมูลจากสมาคมเหล็กทั่วประเทศมาแล้วว่ามีเหล็กประเภทใดแบบใดที่โรงงานในประเทศสามารถผลิตป้อนให้ได้บ้าง
ขณะที่ลักษณะการประกอบธุรกิจหลักของบริษัท คือ การให้บริการจัดหาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แบบครบวงจร (Trading and Warehousing) หรือซื้อมาขายไป ได้แก่ เหล็กม้วนรีดร้อน, เหล็กม้วนสลิต, เหล็กแผ่น, เหล็กรูปพรรณประเภทขึ้นรูปร้อน และ เหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น
ส่วนความคืบหน้าการนำ บริษัท ไพร์ม สตีล มิลล์ จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการเลือกที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และ ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ (Underwriter) ซึ่งถือว่า ไพร์ม สตีล มิลล์ มีความพร้อมค่อนข้างมากในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ และยังคงเดินหน้าตามแผนการดำเนินงาน โดยเบื้องต้นคาดจะมีความชัดเจนภายในปี 61
อนึ่ง THE ได้เข้าซื้อหุ้น บริษัท ไพร์ม สตีล มิลล์ จำกัด เพิ่มเป็น 50% จากเดิม 20% และได้รับโอนหุ้นเรียบร้อยแล้วเมื่อ 31 ม.ค.60