JSP กอด Backlog 3 พันลบ.หนุนผลงาน H2/60 ชะลอเปิดโครงการใหม่-ปรับราคาแนวราบ หลัง Q2/60 กำไรร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 16, 2017 12:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสิทธิพร รัตนาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ (JSP) เปิดเผยว่า บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือกว่า 3,800 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ประมาณ 3,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในต้นปี 61 ดังนั้น บริษัทจึงมั่นใจว่าในปีนี้จะสามารถทำรายได้ที่ 5,000 ล้านบาท หรือเติบโตไม่น้อยกว่า 20% ตามที่ตั้งเป้าไว้

สำหรับธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะยังเติบโตในทิศทางดี โดยมีการปรับกลยุทธ์ชะลอเปิดโครงการใหม่ เร่งบริหารและระบายสต็อกสินค้าโครงการแนวราบ เพิ่มยอดขาย ปรับราคาขึ้น และเร่งโอน โดยโครงการที่บริษัทจะมุ่งเน้นทำตลาด อาทิ โครงการเจ ซิตี้ อัสสัมชัญ-ศรีราชา, เจ ซิตี้ รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง, เจ วิลล่า วงแหวนบางใหญ่ และ เจ ซิตี้ รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง มูลค่าโครงการรวมกว่า 14,000 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 บริษัทเปิดเผยว่ามีกำไรสุทธิ 6.31 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.002 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 148.65 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.035 บาท

ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวม 1,087.47 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 663.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 63.86% ขณะที่มีกำไรสุทธิลดลงเนื่องจากเป็นช่วงที่บริษัทเร่งการหากระแสเงินสดจากโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อลดภาระหนี้และปรับโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ไตรมาส 3/60 เป็นต้นไป บริษัทปรับราคาขายจากโครงการที่ประสบความสำเร็จในแนวราบเพื่อให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย

ไตรมาส 2/60 บริษัทและบริษัทย่อยมียอดโอนกรรมสิทธิอสังหาริมทรัพย์เพื่อการจำหน่ายที่ 1,036.11 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 488.13 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 547.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112.26% และมีรายได้จากการให้เช่าและบริการเท่ากับ 32.74 ล้านบาท หรือ 3.01% ของรายได้รวม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 14.29 ล้านบาท

ผลประกอบการมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากการรับรู้รายได้การโอนกรรมสิทธิ์เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากโครงการแนวราบ ได้แก่ โครงการ JSP City สุขุมวิท-แพรกษา, รังสิตคลอง1 บางปะกง-บ้านโพธิ์, ติวานนท์-บางกระดี และ J Grand (สาทร-กัลปพฤกษ์) จึงส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับยอดทำสัญญาใหม่ในครึ่งปีแรกมียอดรวม 3,600 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ