ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,566.25 จุด ลดลง 1.27 จุด (-0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 21,066.49 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,570.09 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,564.75 จุด
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ หลังจากที่สิ้นสุดช่วงของการประกาศงบฯไตรมาส 2/60 ไปแล้ว ตลาดฯก็ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา ทำให้มีแรงขายทำกำไรหุ้นบางส่วนออกมาหลังจากที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปมาก
และขณะนี้นักลงทุนก็กำลังมองหาหุ้นที่ผ่านจุดแย่ไปแล้วและมีทิศทางที่จะดีขึ้น ซึ่งงบฯไตรมาส 2/60 จะเห็นว่ามี 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่กำไรออกมาดีกว่าคาด คือ กลุ่มการบริโภค, กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มสาธารณูปโภค แต่ภาพรวมทั้งตลาดฯกำไรต่ำกว่าคาดประมาณ 7.7%
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดฯที่ปรับตัวได้ดีเป็นตลาดที่มีความเกี่ยวโยงทางเศรษฐกิจกับสหรัฐฯ นอกนั้นเจอ take profit ออกมาในทิศทางเดียวกัน
ส่วนบ้านเราให้ติดตามคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลย 25 ส.ค.นี้ พร้อมมองกลุ่มถ่านหินและกลุ่มเดินเรือ รวมถึงกลุ่มโรงกลั่นจะมีทิศทางผลดำเนินงานที่ดีขึ้นในไตรมาส 3/60 จากเป็นช่วง High Season
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะซึม โดยดัชนีฯแกว่งตัวในกรอบ 1,560-1,570 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,271.27 ล้านบาท ปิดที่ 5.05 บาท ลดลง 0.15 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,244.55 ล้านบาท ปิดที่ 74.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
MTLS มูลค่าการซื้อขาย 1,125.59 ล้านบาท ปิดที่ 32.25 บาท ลดลง 2.25 บาท
BH มูลค่าการซื้อขาย 1,005.33 ล้านบาท ปิดที่ 206.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.50 บาท
BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 802.51 ล้านบาท ปิดที่ 18.40 บาท ลดลง 0.40 บาท