(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามภูมิภาคหลังดาวโจนส์ดิ่ง รับแรงกดดันจาก"ทรัมป์"ถูกต่อต้านมากขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 18, 2017 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันทั่วหน้าราว 0.3-0.4% เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ถูกต่อต้านมากขึ้น จากที่ผู้บริหารจากภาคธุรกิจได้ลาออกจากตำแหน่งในสภาที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งได้ลาออกไปแล้ว 2 คน และมีข่าวลือว่าจะลาออกอีก 1 คน ซึ่งอาจทำให้การพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ในสภาคองเกรสเป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้น เพราะทั้งภาคธุรกิจและสภาคองเกรสต่างก็ไม่ชอบ"ทรัมป์"มากขึ้น การทำงานและนโยบายต่าง ๆ ของ"ทรัมป์"ก็คงจะเดินหน้าไปได้ยากขึ้น ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์เมื่อวานนี้ปรับตัวลงแรง

ส่วนตลาดบ้านเราคงจะปรับตัวลงไม่มาก เพราะยังมีเรื่องการจ่ายเงินปันผลช่วยหล่อเลี้ยงตลาดฯอยู่ โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มแบงก์ ยังไม่ประกาศจ่ายปันผล

พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570-1,572 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,750.73 จุด ร่วงลง 274.14 จุด (-1.24%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,221.91 จุด ร่วงลง 123.19 จุด (-1.94%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,430.01 จุด ลดลง 38.10 จุด (-1.54%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 231.36 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 15.19 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 344.62 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 44.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 21.48 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 12.63 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.97 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 6.25 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ส.ค.60) 1,568.95 จุด เพิ่มขึ้น 1.43 จุด (+0.09%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 534.53 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ส.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 ส.ค.60) ปิดที่ 47.09 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ส.ค.60) ที่ 8.30 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.24 แนวโน้มทรงตัว ตลาดรอดูทิศทางการเมืองวันตัดสินคดีจำนำข้าวสัปดาห์หน้า
  • กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ได้สรุปแก้ไขกฎหมายเพิ่มเงินสมทบของสมาชิกเข้ากองทุนจากเดิมกำหนดไม่เกิน 1.32 หมื่นบาท/ปี เป็น 3 หมื่นบาท/ปี
  • คลังหารือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เคาะภาษีท่องเที่ยวใหม่ รมว.คลังยืนยันให้อัตราเดียวและต้องเป็นการเดินทางไปเที่ยวในชุมชนและชนบท
  • ธปท. ยังติดตามค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด แต่ไม่พบว่ามีเงินทุนไหลเข้าเก็งกำไรระยะสั้นแบบผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่ค่าเงินผันผวน ธุรกิจอาจจะได้รับผลกระทบหากไม่มีการป้องกันความเสี่ยง ดังนั้น ธปท.จึงได้ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ประกอบธุรกิจส่งออกและนำเข้า และจะเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติในเร็วๆ นี้ รวมทั้งได้ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ให้พิจารณาลดค่าธรรมเนียม (ค่าฟี) หลักประกัน และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ในการป้องกันความเสี่ยงให้กับเอสเอ็มอี เพราะบางธนาคารยังอยู่ในระดับสูง
  • ธปท.รับเงินบาทแข็งค่าแล้ว 7% แข็งสุดในภูมิภาค แต่ยันไม่ฉุดการส่งออก ย้ำเงินไหลเข้ายังไม่พบสัญญาณเก็งกำไร ขุนคลังยังไม่เคาะแพ็กเกจหั่นภาษีหนุนท่องเที่ยว
  • "ประยุทธ์" ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ดึงบิ๊กเอกชนเข้าร่วมอื้อ ขณะที่ "สุวิทย์" หวังช่วยปลดล็อกปัญหาอุปสรรคที่ขับเคลื่อนไม่ได้ พร้อมปรับมายด์เซ็ตคนไทยใหม่เปลี่ยนพลเมืองที่เฉยชาเป็นพลเมืองที่มีจิตสาธารณะหลังคนไทยส่วนหนึ่งแยกดีชั่วถูกผิดไม่ออก

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ITEL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 7 บาท ข้อมูลเชิงบวกจากจำนวนลูกค้าธุรกิจให้เช่าโครงข่ายบอร์ดแบนด์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นทั้งหน่วยงานภาครัฐฯ และกลุ่มสถาบันการเงิน ขณะที่งานติดตั้งโครงข่าย แม้อัตรากำไรขั้นต้นจะถูกกดดันเหลือ 15% จากคาดเดิมที่ 20% แต่ชดเชยได้จากมูลค่างานที่เพิ่มขึ้นกว่าคาดมาก โดยเฉพาะเน็ตชายขอบที่มูลค่าสูงถึง 1.8 พันล้านบาท ปัจจัยลบมีเรื่องเดียว คือ ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่ 2 เปิดช้ากว่าคาด ซึ่งเป็นเพียงการเลื่อนกระแสเงินสดออกไปเท่านั้น โดยอยู่ในช่วงทบทวนประมาณการ
  • MTLS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 39 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลงแรง จากความกังวลในกรณีของตั๋ว B/E ซึ่งผู้ออกที่มีโอกาสถูกคุมเข้มมากขึ้นคือกลุ่ม non-rating แต่ MTLS มี rating BBB จึงยังสามารถออกขายได้ตามปกติ ขณะที่ในระยะสั้นยังไม่มีหนี้ครบกำหนดชำระก้อนใหญ่และสภาพคล่องเป็นไปตามปกติ ส่วนแนวโน้ม 2H60 ยังโตแข็งแกร่งเพราะเป็นฤดูปล่อยสินเชื่อและคาดค่าใช้จ่ายเปิดสาขาลดลง
  • TPCH (โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 22.20 บาท ประกาศข่าวดี โรงไฟฟ้าชีวมวล ปัตตานี กรีน เพาเวอร์ (PTG) กำลังการผลิตติดตั้ง 23 MW ในระบบ ADDER ในราคา 3.87 บาท ได้รับใบอนุญาตสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จาก กฟผ.เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เห็นว่าโครงการ PTG เป็นโครงการลงทุนที่อยู่ในแผนของบริษัทอยู่แล้วโดยต้นเดือนที่ผ่านมาบริษัทได้อนุมัติเงินลงทุน 4 พันล้านบาทเพื่อลงทุนใน 4 โครงการรวมโครงการ PTG ด้วย อย่างไรก็ตามมองเป็นมุมมองบวกต่อผลประกอบการของบริษัทในระยะยาวหลังได้ PPA ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังเนื่องจากรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า PGP และ SGP กำลังการผลิตแห่งละ 9.2 MW หนุนให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวม 52.8 MW
  • TOP (ไอร่า) เป้า 108 บาท ค่าการกลั่นตลาดสิงคโปร์ ล่าสุด 8.32 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เข้าใกล้ระดับสูงสุดของปีนี้ที่ 8.55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล คาดผลการดำเนินงาน 3Q/60 จะออกมาโดดเด่น จากธุรกิจโรงกลั่นเป็นหลัก และคาดจะไม่มีขาดทุนจากสต็อกน้ำมันอีก ในขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีและน้ำมันหล่อลื่นคาดทรงตัวจาก 2Q/60 นอกจากนี้คาดกำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าจะเข้ามาอย่างสม่ำเสมออีก ประมาณ 2,100 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ TOP ยังคงเดินหน้าโครงการขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่น คาดจะช่วยให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น รองรับการใช้น้ำมันสำเร็จรูปในประเทศและการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังสามารถกลั่นน้ำมันดิบที่หนักขึ้น (heavier crude oil) ซึ่งช่วยให้มีค่าการกลั่นสูงขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ