โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) หลังมองภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลจะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้ โดยเฉพาะในไตรมาส 3/60 ที่คาดว่าผลการดำเนินงานจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วง High Season จากที่เข้าสู่ฤดูฝน และอากาศมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทำให้ไตรมาส 3/60 เป็นไตรมาสที่ผลการดำเนินงานของ BDMS น่าจะดีที่สุดในรอบปีนี้
สำหรับกำไรสุทธิปีนี้ ประเมินว่า BDMS จะมีกำไรในช่วง 9,870-9,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระดับ 8,386 ล้านบาทในปีที่แล้ว หลังมีรายการพิเศษจากการขายหุ้นบมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) ที่เกิดขึ้นในไตรมาส 2/60 ซึ่งมีกำไรประมาณ 2,200 ล้านบาท
แต่ด้านกำไรปกติจะอยู่ในช่วง 7,670-7,900 ล้านบาท ลดลงจากระดับ 8,178 ล้านบาทในปีที่แล้ว เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการเงินและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่สูงขึ้นอันเป็นผลมาจากการขยายและปรับปรุงโรงพยาบาล และภาวะชะลอตัวของรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามคาดว่า BDMS จะมีกำไรปกติกลับมาเติบโตได้ในปี 61 รวมถึงยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่มีเครือข่ายโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดเทียบกับคู่แข่ง รวมทั้งยังมีธุรกิจที่นอกเหนือจากธุรกิจโรงพยาบาลที่หลากหลายอีกด้วย
หุ้น BDMS เช้านี้อยู่ที่ 19.90 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 0.50% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.33%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 23.20
เอเชีย เวลท์ ซื้อ 22.00
ไอร่า ซื้อสะสม 21.50
เออีซี ซื้อ 21.50
ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ซื้อ 22.20
ฟินันเซีย ไซรัส ถือ 20.00
ฟิลลิป (ประเทศไทย) ทยอยซื้อ 19.80
น.ส.มินทรา รัตยาภาส นักวิเคราะห์อาวุโส บล.โมนูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลจะดีขึ้น โดยเฉพาะในไตรมาส 3/60 คาดว่า BDMS จะมีผลดำเนินงานจะดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วง High Season ซึ่งปีนี้อากาศเปลี่ยนแปลงเร็ว และฝนมาเร็ว ทำให้เห็นลูกค้าชาวไทยเติบโตดีขึ้นมาตั้งแต่ไตรมาส 2/60 แล้ว โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของ BDMS จะเป็นลูกค้าชาวไทย ขณะที่ลูกค้าชาวต่างชาติจะมีในสัดส่วน 35%
อย่างไรก็ตามด้านผลการดำเนินงานในปีนี้จะเห็นได้ว่า กำไรปกติอาจจะลดลงกว่าปีที่แล้ว โดยคาดว่ากำไรปกติของ BDMS ในปีนี้จะอยู่ที่ 7,670 ล้านบาท ลดลง 6% จากปีที่แล้ว เนื่องจากมีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นกว่าปกติจากการตั้งสำรองเงินกู้ แต่หากมองกำไรสุทธิปีนี้ จะเพิ่มขึ้น 18% มาที่ 9,870 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้มีรายการพิเศษจากการขายหุ้น BH ที่เกิดขึ้นในไตรมาส 2/60 ซึ่งมีกำไรหลังหักภาษีแล้วประมาณ 2,195 ล้านบาท
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ภาพรวมกำไรในปีนี้ของ BDMS จะยังไม่ดี แต่ในช่วงครึ่งปีหลังกำไรน่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากช่วงไตรมาสแรก มีโรคระบาดน้อย แต่ก็เริ่มเห็นรายได้ที่เติบโตขึ้นดีบ้างในไตรมาส 2/ ขณะที่ในไตรมาส 3 คาดว่ารายได้จะดีขึ้นเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และอาจจะดีขึ้นจากงวดปีก่อนด้วย เนื่องจากเข้าสู่ช่วง High Season ในฤดูฝน และสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทำให้ไตรมาส 3/60 เป็นไตรมาสที่ผลการดำเนินงานของ BDMS น่าจะดีที่สุดในรอบปี
นอกจากนี้ BDMS ก็หันมาใช้กลยุทธ์ลดต้นทุนเพื่อช่วยผลักดันผลการดำเนินงาน หลังจากที่รายได้โตไม่มาก แต่ต้นทุนก็ยังเพิ่มอยู่จากการขยายการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิของ BDMS ในปีนี้ไว้ที่ 9,896 ล้านบาท ซึ่งรวมรายการพิเศษจากขายหุ้น BH ที่มีกำไรประมาณ 2,200 ล้านบาท แต่หากมองที่กำไรปกติปีนี้จะทำได้เพียง 7,698 ล้านบาท ลดลงจากระดับกำไรปกติของปี 2559 อยู่ที่ 8,178 ล้านบาท
ส่วนบล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ฯ คาดว่ากำไรปกติของ BDMS ในไตรมาส 3/60 จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยที่การเติบโตของกำไรน่าจะได้แรงหนุนจากมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นในช่วงฤดูฝน การเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ของกรุงเทพสุราษฎร์ และการไม่ได้รับผลกระทบจากเทศกาลรอมฎอนดังเช่นในไตรมาส 2/60
อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรปกติของ BDMS ปี 60 จะลดลง 2.9% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 7,900 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการเงินและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่สูงอันเป็นผลมาจากการขยายและปรับปรุงโรงพยาบาล และภาวะชะลอตัวของรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามคาดว่ากำไรปกติจะกลับมาเติบโตในปี 61 โดยเพิ่มขึ้น 12.1% อยู่ที่ 8,900 ล้านบาท
พร้อมยังคงแนะนำให้นักลงทุนทยอยสะสม BDMS เพื่อการลงทุนระยะยาวโดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่มีเครือข่ายโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดเทียบกับคู่แข่ง รวมทั้งยังมีธุรกิจที่นอกเหนือจากธุรกิจโรงพยาบาลที่หลากหลายอีกด้วย