โบรกฯแนะ"ซื้อ"TKN คาด H2/60 ฟื้นหลังกำลังผลิตใหม่ช่วยลดผลกระทบต้นทุนสาหร่ายสูง,ไฮซีซั่นส่งออกหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 23, 2017 13:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) โดยมองผลการดำเนินงานครึ่งหลังปีนี้น่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการส่งออก และ TKN สามารถเดินเครื่องกำลังการผลิตโรงงานโรจนะเฟส 2 เพิ่มอีก 2,000 ตัน/ปี ช่วยหนุนยอดส่งออกมากขึ้น ส่วนยอดขายภายในประเทศจะปรับตัวดีขึ้นจากการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีน

อย่างไรก็ตามแม้ TKN จะยังคงแบกรับภาระค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะต้นทุนสาหร่ายที่สูงขึ้น แต่ด้วยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการเดินเครื่องโรงงานเฟสใหม่ก็น่าจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นด้วย ขณะที่มีความเป็นไปได้ที่ต้นทุนสาหร่ายจะปรับลดลงในปีหน้าหากผลผลิตสาหร่ายของจีนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ราคาหุ้น TKN เช้านี้อยู่ที่ 19.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.52% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย เพิ่มขึ้น 0.09%

          โบรกเกอร์                        คำแนะนำ                  ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ฟินันเซีย ไซรัส                       ซื้อ                           24
          บัวหลวง                            ซื้อ                           26
          ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)         ซื้อ                           24
          เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)      ซื้อเก็งกำไร                       23
          ไอร่า                             ซื้อสะสม                        25

นางสาวสุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ TKN ในครึ่งหลังปีนี้น่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากครึ่งปีแรก หลังโรงงานใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ สามารถเดินเครื่องกำลังการผลิตเฟส 2 ส่งผลกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 2,000 ตัน/ปี ทำให้ยอดการส่งออกดีขึ้นตามไปด้วย รวมถึงในไตรมาส 3/60 ก็ออกสินค้าใหม่เพื่อส่งออกไปจีน โดยปรับเพิ่มราคาตามสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้น

ขณะที่ TKN ยังรุกไปสู่การขายออนไลน์ในจีนโดยเข้าไปตั้งบริษัทที่จีน เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยการขายผ่านออนไลน์ในจีนมีสัดส่วน 23% ร้านค้าดั้งเดิม 24% และโมเดิร์นเทรด 45%

อย่างไรก็ตาม ทั้งปีนี้คาดว่ายอดขายรวมของ TKN จะเติบโตได้ราว 10% ขณะที่กำไรสุทธิน่าจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย 5% จากปีก่อน จากต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะที่ผลกำไรในครึ่งแรกของปีนี้ยังอ่อนแอ แต่คาดว่าผลการดำเนินงานของ TKN จะกลับมาดีขึ้นได้ในปีหน้าเป็นต้นไป

"เรามองว่ายอดขายในครึ่งปีหลังนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้น จากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังการผลิตของโรงงานโรจนะ สามารถเดินเครื่องได้เต็มที่ ส่งผลดีต่อการส่งออกมากขึ้น และมีสินค้าใหม่ ๆ ออกมา เช่น สาหร่ายประเภทย่าง ประกอบการที่ TKN ได้เคลียร์ปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าวไปหมดแล้ว จากก่อนหน้านี้ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ส่งผลให้ภาพของครึ่งปีหลังนี้น่าจะดีขึ้น โดยจะดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/60 และดีขึ้นอย่างมากในไตรมาส 4/60 จากเป็นช่วงของไฮซีซั่น"นางสาวสุธาทิพย์ กล่าว

นางสาวสุธาทิพย์ กล่าวอีกว่า สำหรับในปีหน้าคาดว่า TKN ยังได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสิ้นปี 60 คาดว่าสัดส่วนรายได้จากการส่งออกจะอยู่ที่ 62% และในประเทศอยู่ที่ 38% ประกอบกับโรงงานที่โรจนะยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อีกด้วย

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ TKN ช่วงครึ่งหลังปีนี้น่าจะฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการส่งออก โดยเฉพาะตลาดจีนที่จะขายดีในครึ่งปีหลัง และยอดขายภายในประเทศก็ปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/60 ที่ผ่านมา จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน รวมถึง TKN ยังมีการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น จากสามารถเดินเครื่องกำลังการผลิตเฟส 2 ของโรงงานใหม่ได้เพิ่มอีก 2,000 ตัน/ปี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตในเฟสแรกที่ 2,000 ตัน/ปี ส่วนเฟส 3 กำลังการผลิต 2,000 ตัน/ปี น่าจะเริ่มติดตั้งเครื่องจักรในช่วงปลายปีนี้ และเริ่มเดินเครื่องกำลังการผลิตได้ในต้นปีหน้า

ทั้งนี้ มองสถานการณ์ต้นทุนสาหร่ายในปีนี้ที่เพิ่มขึ้นราว 5-7% จากปีก่อนนั้นก็เริ่มดูดีขึ้น แม้ว่ายังคงแบกรับภาระจากต้นทุนที่สูงอยู่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในปีหน้า จากปริมาณผลผลิตสาหร่ายของจีนกลับสู่ภาวะปกติ และมีจำนวนโรงงานผลิตสาหร่ายในเกาหลีเพิ่มขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อราคาวัตถุดิบสาหร่ายในปี 61

อย่างไรก็ตาม ประเมินผลกระทบในปีนี้น่าจะมีไม่มากแล้ว ซึ่ง TKN ได้เร่งสต็อกสาหร่ายล่วงหน้าไว้ก่อนราว 50% ของปริมาณที่ต้องใช้ทั้งหมด ก่อนที่จะเกิดความกังวลต่อความไม่สงบในเกาหลี

นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์โดยเชื่อว่าผลการดำเนินงานของ TKN ในไตรมาส 2/60 จะเป็นจุดต่ำสุด ก่อนจะฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้ จากกำลังการผลิตโรงงานใหม่ที่เริ่มเข้าที่ในช่วงไตรมาส 3/60 ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง และสามารถรองรับยอดขายจากจีนที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องได้

อย่างไรก็ตามแม้ TKN ยังต้องแบกรับต้นทุนสาหร่ายที่ค่อนข้างสูงต่อไปในช่วงที่เหลือของปีนี้ แต่มองว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น จะช่วยลดต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลง และทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ในช่วงที่เหลือของปีนี้ดีขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 2/60


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ