(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้น หลังนน.การเมืองในปท.ลดลง,การเคลื่อนย้ายเงินทุนไม่เกิดหลังสิ้นสุดประชุมศก.ประจำปีของเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 28, 2017 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปได้ เนื่องจากปัจจัยการเมืองในประเทศก็ได้ลดน้ำหนักลงแล้วและไม่มีประเด็นอะไรที่กังวล ส่วนการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ก็ไม่ได้มีอะไร ทางประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็ไม่ได้พูดถึงการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ทำให้เห็นว่าการเคลื่อนย้ายเงินทุนคงจะไม่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ส่วนประธานเฟดก็ยังคงจับตาเศรษฐกิจของสหรัฐฯต่อไป

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ได้ปรับตัวขึ้นหลังมีพายุเข้า รวมไปถึงแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯก็ลดลง ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในแดนบวก ทำให้ตลาดฯมีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้น

ทั้งนี้ ถ้าดัชนีฯทะลุแนว 1,581 จุด ขึ้นไปได้ก็จะเป็นขาขึ้นรอบใหม่ อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ มองกลุ่มพลังงาน, รับเหมาฯ, อสังหาริมทรัพย์ และสื่อสาร ที่น่าจะนำพาให้ตลาดฯปรับขึ้นไปได้

พร้อมให้แนวรับ 1,572 จุด ส่วนแนวต้าน 1,581-1,590 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,813.67 จุด เพิ่มขึ้น 30.27 จุด (+0.14%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,265.64 จุด ลดลง 5.68 จุด (-0.09%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,443.05 จุด เพิ่มขึ้น 4.08 จุด (+0.17%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 49.62 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.61 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 57.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 12.71 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.13 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.05 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.58 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ส.ค.60) 1,575.85 จุด ลดลง 0.11 จุด (-0.01%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 438.96 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ส.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ส.ค.60) ปิดที่ 47.87 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ส.ค.60) ที่ 8.38 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.24 แข็งค่าหลังดอลล์อ่อนจากผิดหวังประธานเฟดยังไม่ส่งสัญญาณนโยบายการเงิน
  • แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตรวจสอบการทุจริตขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตที่ 2 อีก 8 สัญญา ปริมาณ 14 ล้านตัน เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งเป็นการขายข้าวสต๊อก รัฐบาลให้กับรัฐวิสาหกิจของจีน แต่ไม่ใช่บริษัทที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลกลางของจีนให้ทำสัญญาซื้อขายกับไทย รวมทั้งยังได้ตรวจสอบการ ทุจริตขายมันสำปะหลังแบบจีทูจีของกระทรวงพาณิชย์เสร็จสิ้นแล้วเช่นกัน โดยพบว่ามีการทุจริตเหมือนกับการขายข้าวจีทูจี โดยได้ทำสัญญาซื้อขาย มันจำนวน 7 สัญญา ปริมาณ 4.79 ล้านตัน
  • คลังเผยโครงสร้างภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ เครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ และชาเขียว เสียภาษีอ่วม ในอัตรา 10% บวกกับค่าความหวาน ทำให้สินค้าที่มีราคา 20 บาทต่อขวด จะเสียภาษีเพิ่ม 1 บาท ส่วนรถยนต์เคยเสียภาษี 30% ลดเหลือ 23% กระทบราคาสินค้าน้อย ด้านอธิบดีกรมสรรพสามิตนัดแถลงอัตราภาษีสรรพสามิตสัปดาห์นี้ ผู้ประกอบการเครื่องดื่มลุ้นเกณฑ์ใหม่เร่งปรับสูตร ลดความหวาน
  • ประธานคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์) เปิดเผยว่า การประชุม คณะกรรมการเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ ยินยอมที่จะโอนสัญญาโอนและรับสิทธิ โอนในรายได้ (RTA) โครงการทางพิเศษ ฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) เพื่อโอนรายได้ในอนาคตที่ 45% ให้กับกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ ฟันด์ เป็นเวลา 30 ปี
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยสินเชื่อแบงก์ทั้งระบบเดือน ก.ค.ปรับตัวลด 8.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 0.79% เทียบกับเดือนก่อนหน้า จากการคืนเงินกู้ลูกหนี้รายใหญ่ คาดช่วงที่เหลือของปีขยับขึ้นปัจจัยฤดูกาลและการสนับสนุนภาครัฐหนุน
  • คมนาคมเล็งเซ็นจ้างทางคู่นครปฐม-หัวหิน และหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่ารวมกว่า 23,300 ล้านบาทเดือน ก.ย.- ต.ค.นี้ มั่นใจยังเป็นไปตามแผน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTTEP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 98 บาท กลุ่มพลังงานเริ่มกลับมาได้รับความสนใจจากราคาน้ำมันดิบและค่าการกลั่นที่ปรับขึ้น ขณะที่ ล่าสุด Dollar Index ปรับตัวลงอีก 0.8% และแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯลดลงอีก 4 แท่นเหลือ 759 แท่น
ด้านราคาหุ้น Laggard กลุ่มมาก ตลอด 1 เดือนที่ราคาน้ำมันดิบขึ้น 11% กลุ่มขึ้น 6% แต่ PTTEP กลับลง 1% แม้แนวโน้มกำไร 2H60 ไม่หวือหวา แต่นอกจากประเด็นการปรับขึ้นของราคาน้ำมันที่มีความต่อเนื่อง ยังมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากการประมูลปิโตรเลียมรอบใหม่
  • BJC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 55 บาท เริ่มเห็นการฟื้นตัวใน SSSG ของ BIGC +2.7% Y-Y ใน ก.ค.60 ซึ่งน่าจะยืนระยะบวกแบบนี้ตลอด 2H60 แต่แนวโน้มกำไร 3Q60 ถือว่าไม่สดใสนัก เพราะเป็น Low Season ของทั้ง BJC และ BIGC อีกทั้งภาษีจ่ายยังสูง ก่อนจะปรับโครงสร้างแล้วเสร็จ และคาดว่าจะมีการกลับรายการภาษีก้อนใหญ่ใน 4Q60 ซึ่งจะทำให้กำไรเป็นจุดสูงสุดของปี ส่วนแผนการตลาดเน้นเพิ่มสินค้าอัตรากำไรสูงและช่องทางออนไลน์ ขณะที่ สาขา BIGC ในต่างประเทศคาดว่าจะเปิดที่ลาวและกัมพูชาใน 2 ปีข้างหน้านี้
  • BANPU (โกลเบล็ก) เป้า Bloomberg Consensus 21.93 บาท ราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูง 97.5 ดอลลาร์ต่อตัน เนื่องจากจีนกีดกันไม่ให้นำเข้าถ่านหินในท่าเรือเล็ก และอุปทานจากอินโดนีเซียลดลงหลังฝนตกสูงสุดในรอบ 7 ปีทำให้ผลิตถ่านหินได้ลดลง นอกจากนี้สต็อกถ่านหินที่อินเดียปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งทำให้มีโอกาสเพิ่มการนำเข้าถ่านเพิ่มเติม แม้ว่าจะคาดผลประกอบการ 3Q60 จะไม่โดดเด่นเท่า 2Q60 เนื่องจากธุรกิจโรงไฟฟ้าอาจอ่อนตัวลงจากไตรมาส 2 เพราะโรงไฟฟ้าหงสามีหยุดซ่อมบำรุง 6 สัปดาห์และโรงไฟฟ้า BLCP หยุดซ่อมบำรุง 2 สัปดาห์ในปลาย 3Q60 แต่ราคาถ่านหินทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องจะเป็นตัวหนุนผลประกอบการ โดย Bloomberg คาดว่ากำไรปี 60 จะเติบโต 433%YoY สู่ระดับ 8.9 พันล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ