โบรกเกอร์ พร้อมใจเชียร์"ซื้อ"หุ้นบมจ.แพลนบี มีเดีย (PLANB) จากแนวโน้มกำไรสุทธิในปี 60-61 เติบโตก้าวกระโดด ตามเม็ดเงินโฆษณาที่เชื่อว่าจะเริ่มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เดือนพ.ย.เป็นต้นไป หลังผ่านช่วงพระราชพิธีสำคัญในเดือนต.ค. โดย PLANB ซึ่งเป็นเจ้าตลาดสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย (OOH) โดยเฉพาะสื่อดิจิตอล มีลุ้นรับอานิสงส์จากการเร่งซื้อสื่อโฆษณา ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้และกำไรหลักปรับตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/60 คาดจะทำระดับสูงสุดของปีนี้ สวนทางกับการบริโภคในประเทศที่ชะลอตัว เนื่องจากรายได้จากทุกสื่อเพิ่มขึ้น และยังรับรู้รายได้จากการบริหารลิขสิทธิ์ฟุตบอล 35 ล้านบาท รวมถึงอานิสงส์สื่อนอกบ้านที่ยังเติบโต หนุนการทำกำไรหลักให้ขยายตัวดี
พร้อมกันนี้มองว่า PLANB ยังมีอัพไซด์ต่อกำไรที่ดีจากการขยายธุรกิจสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยครบวงจรและการซื้อกิจการในต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจใหม่สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ก็จะช่วยหนุนผลการดำเนินงานในระยะยาว
ราคาหุ้น PLANB พักเที่ยงอยู่ที่ 6.05 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 1.63% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.19%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
บัวหลวง ซื้อ 8.20
ธนชาต ซื้อ 7.50
ทิสโก้ ซื้อ 6.80
เคจีไอ (ประเทศไทย) ซื้อ 6.70
กรุงศรี ถือ 6.20
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ คาดกำไรสุทธิของ PLANB ใน ปี 60-61 จะเติบโตก้าวกระโดดปีละ 36% จากการรับรู้รายได้เต็มปีของสื่อโฆษณาใหม่ในปีที่ผ่านมา และเริ่มรับรู้รายได้จากการบริหารลิขสิทธิ์ฟุตบอลและสื่อสนามบินเพิ่มขึ้น โดยตลาดสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเติบโต 23% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สอดคล้องกับรายได้ของ PLANB ที่เติบโตระดับ 22% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/60 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในไตรมาสก่อน จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของทุกสื่อรวมกัน โดยคาดว่าจะมีอัตราการใช้สื่อเพิ่มขึ้น และรับรู้รายได้จากการบริหารลิขสิทธิ์ฟุตบอล 35 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลประกอบการจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยในช่วงท้ายของปี จากช่วงพระราชพิธีสำคัญในเดือน ต.ค.และคาดว่างบโฆษณาจะเริ่มกลับมาตั้งแต่เดือน พ.ย.เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามภาพรวมของผลการดำเนินงานครึ่งหลังปีนี้ น่าจะยังทำได้ดีกว่าครึ่งปีแรก จากการรับรู้รายได้จากสื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้น
นักวิเคราะห์ กล่าวด้วยว่า เมื่อพิจารณาในช่วงปี 60-62 คาดว่า PLANB จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 16% ซึ่งยังไม่รวมสื่อต่างประเทศ เนื่องจากยังมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อย และคาดว่าอัตราการใช้สื่อรวมในช่วง 3 ปีนี้จะอยู่ที่ 65-70% และแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นคาดดีขึ้นอยู่ที่ 36% จาก 32% จากรายได้สื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนคงที่มีอัตราเพิ่มขึ้นช้ากว่าการเติบโตของรายได้ ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิช่วงปี 60-62 จะเติบโตเฉลี่ย 3 ปีละ 22%
ด้าน บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ PLANB ในช่วงปี 60-61 จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 41% โดยกำไรในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากปีก่อน หลังจากช่วงครึ่งแรกของปีนี้สามารถทำกำไรได้เติบโตแล้ว 30% และคาดว่าจะทำกำไรสูงสุดในไตรมาส 3/60 จากอัตราการใช้สื่อที่เพิ่มขึ้นมาเกิน 70% เนื่องจากเอเยนซี่จะเร่งใช้จ่ายงบเพื่อซื้อสื่อโฆษณาต่าง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัย ก่อนที่กิจกรรมทางการตลาดจะชะลอลงในช่วงเดือน ต.ค.อีกทั้งกำไรในไตรมาส 4/60 ก็จะดีขึ้นจากฐานที่ต่ำในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนในปี 61 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 698 ล้านบาท เติบโต 44% จากปีนี้ เป็นผลจากการให้บริการที่เพิ่มขึ้น และอัตราการใช้สื่อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ โดยคาดว่าการเติบโตจะเร่งตัวขึ้นในปี 61 จากโครงการใหม่ ๆ เช่น การขยายความสามารถในการให้บริการตามเส้นทางรถไฟฟ้า MRT สายใหม่ และการเปลี่ยนป้ายนิ่งในเขตกรุงเทพฯจำนวน 50 ป้ายเป็นสื่อดิจิตอล ซึ่งจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
ส่วนในตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้าจะขยายบริการเข้าไปในตลาดใหม่ ๆ เช่น เวียดนามและสิงคโปร์ ทั้งนี้ สัดส่วนเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย ในกลุ่มประเทศอาเซียนเมื่อปี 59 ยังต่ำอยู่แค่ 5-8% ของเม็ดเงินโฆษณารวม
บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุว่าแนวโน้มการทำกำไรของ PLANB ในปีนี้จะขยายตัวต่อเนื่อง จากการหันขยายสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย ซึ่งจะหนุนให้กำลังการผลิตสื่อเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ปี 60-61 โดยคาดปีนี้จะเติบโต 13% และปีหน้าเติบโตอีก 5-7% ขณะเดียวกันยังได้รับแรงสนับสนุนจากธุรกิจใหม่ สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง (Sports Marketing) ที่เริ่มในปี 60 ก็จะเป็นอีกปัจจัยหนุนรายได้เติบโตในปีหน้าด้วย โดยคาดรายได้ของ Sports Marketing ในปี 61 มีแนวโน้มเติบโต 17% มาอยู่ที่ 680 ล้านบาท เนื่องจากมีแรงหนุนจากรายได้จากสปอนเซอร์และรายได้จากการขายสินค้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องสูงขึ้น
ทั้งนี้ มองว่า PLANB ยังมีอัพไซด์ต่อกำไรจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การขยายธุรกิจสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย ,การซื้อกิจการ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนามและมาเลเซีย และสุดท้าย รายได้จาก Sports Marketing ที่เพิ่มขึ้น จะเป็นส่วนส่งเสริมต่อการเติบโตของ PLANB ในอนาคต
สำหรับในปีนี้คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาจะพุ่งสูงขึ้นในเดือน พ.ย.ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกันกับผู้เล่นในอุตสาหกรรมที่คาดเม็ดเงินโฆษณาจะสูงขึ้น หลังผ่านช่วงพระราชพิธีช่วงเดือน ต.ค. ทำให้มองว่าเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมจะเริ่มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เดือน พ.ย.เป็นต้นไป ประกอบกับคาดผลกระทบจากช่วงพระราชพิธีมีแนวโน้มจะน้อยกว่าบช่วงไว้อาลัยในไตรมาส 4/59 ดังนั้น คาดเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมไตรมาส 4/60 จะเติบโตเทียบกับปีก่อนที่มีฐานค่อนข้างต่ำ ก็จะช่วยหนุนรายได้และกำไรหลักของ PLANB สูงขึ้นเช่นกัน
"แม้ภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาจะชะลอตัว แต่เม็ดเงินโฆษณาสำหรับสื่อนอกบ้านยังเติบโต ซึ่ง PLANB เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ ประมาณการกำไรหลักเติบโตเฉลี่ยระหว่างปี 60-62 อยู่ที่ 16% ต่อปี เทียบกับของ SET ที่เพียง 7% ต่อปี หนุนโดยอัตราการเช่าใช้สื่อที่เพิ่มขึ้นทั้งสำหรับสื่อที่มีในปัจจุบัน และที่จะเข้ามาใหม่ อีกทั้งยังมีอัพไซด์จากการลงทุนและซื้อการกิจการในอนาคต"บัวหลวง ระบุ