ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,659.10 จุด เพิ่มขึ้น 16.16 จุด (+0.98%) มูลค่าการซื้อขาย 72,127.38 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,661.60 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,643.80 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 763 หลักทรัพย์ ลดลง 534 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 409 หลักทรัพย์
น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับอย่างไม่มีนัยยะ ส่วนตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ส่วนใหญ่ก็ติดลบ แต่ตลาดบ้านเราที่ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าคงเป็นเพราะที่ผ่านมาตลาดบ้านเราขึ้นไปได้ช้ากว่าตลาดอื่นในเอเชีย
นอกจากนี้ในทางเทคนิคก็เกิดสัญญาณ"ซื้อ"เข้ามาหนุนอีกหลังจากที่ดัชนีฯสามารถทะลุผ่านแนวจิตวิทยาที่ 1,650 จุด ซึ่งแรงซื้อที่เข้ามาในตลาดฯคาดว่าจะเป็นแรงซื้อจากบรรดากองทุน และนักลงทุนต่างชาติ โดยสังเกตุได้จากหุ้นบิ๊กแคปที่ปรับขึ้นมาในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงาน, แบงก์ และหุ้น SCC แสดงให้เห็นถึง Fund Flow ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตลาดฯจะมีพักฐานบ้างในการเทรดระหว่างวันก็เป็นการพักตัวเพื่อที่จะไปต่อ
พร้อมให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ และสัปดาห์หน้าก็ติดตามกาประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่วนในช่วงปลายเดือนนี้ก็ให้ติดตามการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) น.ส.จิตรา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะซิกแซกขึ้นไปได้ต่อ พร้อมให้แนวรับ 1,640 จุด ส่วนแนวต้าน 1,655-1,660 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PRM มูลค่าการซื้อขาย 9,001.91 ล้านบาท ปิดที่ 11.40 บาท เพิ่มขึ้น 3.40 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,292.00 ล้านบาท ปิดที่ 410.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,242.75 ล้านบาท ปิดที่ 218.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
BEM มูลค่าการซื้อขาย 1,856.83 ล้านบาท ปิดที่ 8.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,825.63 ล้านบาท ปิดที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท